กบข.มองการลงทุนครึ่งปีหลังรับปัจจัยลบรับผลจากเศรษฐกิจชะลอ เผย 6 เดือนทำผลตอบแทน 3% ยังเน้นลงทุนหุ้นยุโรป เอเชีย ส่วนหุ้นไทยเน้นเลือกรายตัว
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนของกองทุน กบข.ว่า จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีการเติบโตลดลง รวมทั้งตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงมา ทาง กบข.ได้มีการกระจายการลงทุนตามสภาวะ โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาพอร์ตการลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนอยู่ที่ 3% จากการลงทุนในตลาดยุโรป เอเชีย ญี่ปุ่น จีน แต่ในช่วงครึ่งปีหลังการลงทุนอาจจะยากขึ้นเพราะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง รวมทั้งเรื่องภัยแล้ง และเศรษฐกิจจีนที่เติบโตช้า และกระทบต่อการส่งออกของไทย ดังนั้น โดยการลงทุนในครึ่งปีหลังของกองทุนอาจลดลงจากที่ตั้งเป้าผลตอบแทนที่ระดับ 6% อาจเหลือประมาณ 5% กว่า
ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้นั้น แม้อัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลงแค่ไม่กระทบการลงทุนมากเพราะมีการกระจายการลงทุนในพอร์ต แต่ในช่วงครึ่งปีหลังนั้นยังมองยากว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร แต่การลงทุนยังเป็นไปตามเป้าหมายเดิมสร้างผลตอบแทนให้ชนะดอกเบี้ยเงินและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งปีที่ผ่านมากองทุน กบข.สร้างผลตอบแทนได้ที่ 6.75%
“ตลาดหุ้นจีนตอนนี้ในพอร์ตการลงทุนของ กบข.ยังเป็นบวกอยู่แม้ว่าตลาดจะปรับตัวลงมา แต่มองว่าตลาดยังขึ้นต่อได้เพราะเป็นตลาดใหญ่และมีนักลงทุนจำนวนมาก ทาง กบข.ก็รอดูสถานการณ์ที่จะเข้าไปลงทุนเช่นกัน ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติและกำลังจะขึ้นดอกเบี้ยนั้น สะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีขึ้นการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ จึงน่าสนใจในระยะยาว"
ทั้งนี้ พอร์ตการลงทุนของสมาชิก กบข.ปัจจุบัน (ณ สิ้นเดือน มิ.ย.) อยู่ที่ 520,849.23 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ประมาณกว่า 60% หุ้น 24% ซึ่งในสัดส่วนการลงทุนในหุ้นมีหุ้นต่างประเทศ สหรัฐฯ ยุโรป เอเชียรวมกัน 14% หุ้นไทย 10% อสังหาริมทรัพย์ 5% และการลงทุนทางเลือกอีกประมาณ 10%
“การลงทุนในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงนั้นต้องมีการคัดกรองและเลือกการลงทุนเป็นรายตัวมากขึ้น”
นอกจากนี้ ทางกบข.กำลังขออนุมัติเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นจาก25% เป็น 30% ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และรอว่าจะได้รับอนุมัติเมื่อใด
สำหรับสมาชิกของกองทุน กบข.ในปัจจุบันอยู่ที่ 1,200,000 คน โดยมีสมาชิกที่ขอใช้สิทธิกลับไปให้ระบบบำนาญเดิม (Undo) ประมาณ 248,000 ราย หรือคิดเป็น 30% และคิดเป็นเงินที่ กบข.ต้องจ่ายคืนประมาณ 50,000 ล้านบาท
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนของกองทุน กบข.ว่า จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีการเติบโตลดลง รวมทั้งตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงมา ทาง กบข.ได้มีการกระจายการลงทุนตามสภาวะ โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาพอร์ตการลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนอยู่ที่ 3% จากการลงทุนในตลาดยุโรป เอเชีย ญี่ปุ่น จีน แต่ในช่วงครึ่งปีหลังการลงทุนอาจจะยากขึ้นเพราะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง รวมทั้งเรื่องภัยแล้ง และเศรษฐกิจจีนที่เติบโตช้า และกระทบต่อการส่งออกของไทย ดังนั้น โดยการลงทุนในครึ่งปีหลังของกองทุนอาจลดลงจากที่ตั้งเป้าผลตอบแทนที่ระดับ 6% อาจเหลือประมาณ 5% กว่า
ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้นั้น แม้อัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลงแค่ไม่กระทบการลงทุนมากเพราะมีการกระจายการลงทุนในพอร์ต แต่ในช่วงครึ่งปีหลังนั้นยังมองยากว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร แต่การลงทุนยังเป็นไปตามเป้าหมายเดิมสร้างผลตอบแทนให้ชนะดอกเบี้ยเงินและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งปีที่ผ่านมากองทุน กบข.สร้างผลตอบแทนได้ที่ 6.75%
“ตลาดหุ้นจีนตอนนี้ในพอร์ตการลงทุนของ กบข.ยังเป็นบวกอยู่แม้ว่าตลาดจะปรับตัวลงมา แต่มองว่าตลาดยังขึ้นต่อได้เพราะเป็นตลาดใหญ่และมีนักลงทุนจำนวนมาก ทาง กบข.ก็รอดูสถานการณ์ที่จะเข้าไปลงทุนเช่นกัน ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติและกำลังจะขึ้นดอกเบี้ยนั้น สะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีขึ้นการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ จึงน่าสนใจในระยะยาว"
ทั้งนี้ พอร์ตการลงทุนของสมาชิก กบข.ปัจจุบัน (ณ สิ้นเดือน มิ.ย.) อยู่ที่ 520,849.23 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ประมาณกว่า 60% หุ้น 24% ซึ่งในสัดส่วนการลงทุนในหุ้นมีหุ้นต่างประเทศ สหรัฐฯ ยุโรป เอเชียรวมกัน 14% หุ้นไทย 10% อสังหาริมทรัพย์ 5% และการลงทุนทางเลือกอีกประมาณ 10%
“การลงทุนในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงนั้นต้องมีการคัดกรองและเลือกการลงทุนเป็นรายตัวมากขึ้น”
นอกจากนี้ ทางกบข.กำลังขออนุมัติเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นจาก25% เป็น 30% ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และรอว่าจะได้รับอนุมัติเมื่อใด
สำหรับสมาชิกของกองทุน กบข.ในปัจจุบันอยู่ที่ 1,200,000 คน โดยมีสมาชิกที่ขอใช้สิทธิกลับไปให้ระบบบำนาญเดิม (Undo) ประมาณ 248,000 ราย หรือคิดเป็น 30% และคิดเป็นเงินที่ กบข.ต้องจ่ายคืนประมาณ 50,000 ล้านบาท