xs
xsm
sm
md
lg

Thai Equity Market : หุ้นไทยและแนวโน้มการลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คอลัมน์คุยกับผู้จัดการกองทุน
โดย บลจ.ทิสโก้

มุมมองตลาดหลักทรัพย์ในไตรมาสที่ 3/2015

หากย้อนดูสภาพเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จะพบว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวตามการจ้างงานและฐานะทางการเงินของครัวเรือนที่ปรับตัวดีขึ้น แม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาชะลอตัวลงบ้างเพราะอากาศที่หนาวจัดก็ตาม ในขณะที่เศรษฐกิจกลุ่มยูโรและญี่ปุ่นมีทิศทางฟื้นตัวอย่างช้าๆ ผลกระทบเชิงบวกจากการออกนโยบายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอาจจะต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อส่งผลต่อ Real Sector ในลำดับถัดไป เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากภาวะการลงทุนและการส่งออกที่เปลี่ยนไป ภาครัฐมีการปรับเปลี่ยนปฏิรูปเชิงโครงสร้างโดยเน้นการบริโภคภาคเอกชนให้เป็นแรงหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจหลังจากนี้

สำหรับเศรษฐกิจไทย เรายังคงมองว่าจะมีอัตราการขยายตัวที่ 3.0-3.50% ในปี 2015 การส่งออกสินค้าที่มีแนวโน้มลดลงอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจคู่ค้าที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด รวมไปถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของภาคส่งออกไทย จากการลงทุนต่ำเป็นเวลานาน รายได้เกษตรกรที่ตกต่ำเป็นเวลานาน และหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ครัวเรือนมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น แม้ว่าล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่ม (ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. 2558) ด้วยความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับต่ำ ทำให้การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอตัวออกไป

ดังสะท้อนได้จากอัตราการขยายตัวสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่ซบเซาตั้งแต่ต้นปี ในส่วนของแรงหนุนจากการใช้จ่ายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เรามองว่าหากมีความต่อเนื่องและมีการเร่งเบิกจ่ายได้เร็วขึ้นก็จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจและฟื้นความเชื่อมั่นของภาคเอกชนในระยะข้างหน้า เรามองว่าในปี 2015 จะเป็นปีที่ประเทศไทยยังคงเน้นในเรื่องของการ Reforms ในด้านต่างๆ เป็นหลัก ซึ่งรวมไปถึงการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จนนำไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็วที่สุดซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงปลายปี 2016

สำหรับไตรมาสที่ 3/2015 เราคาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,480-1,560 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนภายในประเทศที่ชัดเจน แต่ก็จะถูกชดเชยด้วยปัจจัยอื่นๆ เช่น แรงหนุนจากสภาพคล่องในประเทศที่อยู่ในระดับสูง, การทยอยประกาศผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2015 ของบริษัทจดทะเบียนฯ ในบางอุตสาหกรรมที่เริ่มสะท้อนสภาวะการฟื้นตัวที่ดีขึ้น และภาพรวมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางประเทศต่างๆ ที่ยังคงอยู่ในโหมดผ่อนคลายต่อไป

เรามองว่าพัฒนาการและความชัดเจนของการปฏิรูปประเทศจะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 4/2015 ตามแนวทางขับเคลื่อนประเทศหรือโรดแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และจะเป็นปัจจัยหลักในการเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ SET Index สามารถปรับตัวสูงขึ้นไปได้ในลำดับถัดไป

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เรายังคงเน้นการทำ Stock Selection เพราะเชื่อว่าแม้สภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ไม่เอื้ออำนวย แต่ก็จะมีกลุ่มบริษัทจดทะเบียนฯ ที่มีผลประกอบการที่โดดเด่น และน่าสนใจในการลงทุนอยู่เสมอ ซึ่งพิจารณาจากความสามารถในการทำกำไร, ความแข็งแกร่งทางการเงินและแผนธุรกิจที่มีความยืดหยุ่นตามสภาวะเศรษฐกิจ เป็นต้น ในไตรมาสนี้เราจะเลือกกลุ่มบริษัทฯ ที่ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก (อาหาร, ท่องเที่ยว) รวมไปถึงนโยบายการปฏิรูปประเทศและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางรัฐบาล (ธนาคาร, พลังงาน, ICT, วัสดุก่อสร้าง), กลุ่มที่ยังรักษาอัตราการขยายตัวของกำไรได้ดีกว่าตลาด (โรงพยาบาล), กลุ่มที่ผ่านพ้นจุดต่ำสุดของระดับผลประกอบการไปแล้วและปัจจุบันมี Valuation ที่ถูกกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต (อสังหาริมทรัพย์) และบริษัทฯ ที่ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและมีความสามารถในการดึงมาร์เกตแชร์จากคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง (ค้าปลีก)

ความเสี่ยงที่ต้องจับตามองในไตรมาสที่ 3/2015 ได้แก่ 1) สถานการณ์และแนวทางการชำระหนี้ของกรีซ 2) ช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ 3) การแพร่กระจายและแนวทางการป้องกันเชื้อไวรัสเมอร์ส 4) ระดับราคาน้ำมันโลก 5) แนวทางการปฏิรูปภายในประเทศ รวมไปถึงพัฒนาการของการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ


กำลังโหลดความคิดเห็น