xs
xsm
sm
md
lg

5 เดือนแรก บลจ.แห่ขาย “ทริกเกอร์ฟันด์” มูลค่ากว่า 2.7 หมื่นล้าน “หุ้นจีน-ญี่ปุ่น” ติดอันดับยอดฮิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กองทริกเกอร์ฟันด์สุดฮอต 5 เดือนแรกเปิดขายแล้วกว่า 58 กองทุน คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท กองต่างประเทศหุ้นจีน-ญี่ปุ่นติดอันดับยอดนิยม ส่วนหุ้นไทยตามมาเป็นอันดับสองเปิดขายกว่า 9.7 พันล้านบาท

นายกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์กองทุน บจ.มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ช่วง 5 เดือนแรกของปี 2558 อุตสาหกรรมกองทุนมีการออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ไปแล้วถึง 58 กองทุน คิดเป็นมูลค่า 27,450 ล้านบาท เป็นกองทุนต่างประเทศถึง 57.73% จำนวน 30 กองทุน คิดเป็นม็ดเงินสูงถึง 14,750 ล้านบาท

อันดับที่สองเป็นกองทุนทริกเกอร์หุ้นไทย 23 กองทุน มูลค่า 9,700 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 35.34% และเป็นกองทุนทริกเกอร์น้ำมัน 5 กองทุน มูลค่ารวมกัน 3,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10.93%

สำหรับปีนี้การลงทุนในต่างประเทศผ่านกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยไปหุ้นจีนและญี่ปุ่น 10 กองทุนเท่ากัน มูลค่า 5,700 ล้านบาท และ 4,400 ล้านบาท ตามลำดับ ตามมาด้วยกองทริกเกอร์หุ้นเอเชีย 5 กองทุน มูลค่า 3,400 ล้านบาท ส่วนกองทริกเกอร์สหรัฐฯ มี 2 กองทุน มูลค่า 750 ล้านบาท และทริกเกอร์อื่นๆ 3 กอง มูลค่า 500 ล้านบาท

“ปีนี้ถือเป็นปีที่คึกคักของกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ เพราะเพียง 5 เดือนก็ออกไปแล้วกว่า 58 กองทุน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนสำหรับนักลงทุนไทย แต่ก็ต้องทำความเข้าใจในโปรดักต์ด้วยว่าเป้าหมายนั้นเพียงเป็นความตั้งใจที่ บลจ.จะทำให้ได้ ไม่ใช่เป็นการการันตีผลตตอบแทนแต่ประการใด”

นายกิตติคุณ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของกองทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทยถือว่าแต่ละ บลจ.ที่ออกก็ออกในจังหวะที่ดีได้ราคาค่อนข้างต่ำในช่วงเดือน มี.ค.ที่ตลาดหุ้นมีการปรับตัวลงมามาก แต่เพราะตลาดหุ้นไทยเองก็ยังไม่ได้ไปไหนไกลจึงทำให้ยังไม่มีกองไหนบรรลุเป้าหมายได้ดังกล่าว และในช่วงนี้ก็ยังไม่มี บลจ.ไหนออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทยออกมาเพิ่มเติมด้วยแม้ตลาดจะปรับตัวลงต่ำแล้วก็ตาม อาจเพราะทิศทางตลาดยังไม่ชัดเจนและกองเก่ายังไม่บรรลุเป้าหมายด้วย บลจ.จึงหันไปออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ต่างประเทศแทนซึ่งมีบรรรลุเป้าหมายไปแล้วกว่า 10 กอง ส่วนใหญ่เป็นกองทุนที่ลงทุนหุ้นจีน และญี่ปุ่นเป็นหลัก

“ปีนี้กองทุนทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทยที่ออกส่วนใหญ่จะมีเป้าหมายย 5-6% แต่ด้วยบรรยากาศของตลาดหุ้นที่ไม่ดีนักดัชนีหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปียังไม่ไปไหนเสมอตัวทำให้ยังไม่มีกองไหนบรรลุเป้าหมายแม้แต่กองเดียว และอาจทำให้นักลงทุนขยับออกไปลงทุนผ่านกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่มีโอกาสมากขึ้นด้วย โดยกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ต่างประเทศจะตั้งเป้าไว้เฉลี่ย 8% ซึ่งในปีนี้ในส่วนของกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่ลงทุนในน้ำมันบรรลุเป้าหมายแล้วทุกกองทุนแต่ก็ไม่ได้มีการออกมาใหม่เพิ่มเติม อาจเป็นเพราะราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวขึ้นมาจากช่วงต้นปีแล้ว”

นายกิตติคุณ กล่าวเสริมว่า ตลาดหุ้นไทยในปีนี้ที่ดูไม่ค่อยดีนักยังมีความผันผวนและไม่ได้ไปไหนไกล ทำให้นักลงทุนบางส่วนหลบออกจากตลาดหุ้นไทยไปอยู่ในกองทุนตราสารหนี้รวมถึงกองทุนหุ้นต่างประเทศแทนซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับภาพการลงทุนในกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ โดยในช่วง 4 เดือนแรกมีเงินไหลไปลงทุนในกองหุ้นญี่ปุ่น 11,000 ล้านบาท กองหุ้นจีน 5,000 ล้านบาท กองหุ้นสหรัฐฯ 650 ล้านบาท และกองหุ้นยุโรป 500 ล้านบาท และมีเงินไหลเข้ากองหุ้นขนาดกลางและเล็ก 3,500 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มมีการกระจายการลงทุนในพอร์ตการลงทุนของตัวเองมากขึ้นไม่ได้อยู่เฉพาะในหุ้นไทยเช่นในอดีตแล้ว หลังจากที่กองทุนรวมมีทางเลือกในการลงทุนเปิดกว้างมากขึ้นกว่าในอดีตมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น