xs
xsm
sm
md
lg

MFC รุกช่องทางขาย ตจว.เพิ่ม ตั้งเป้ายอดขายสาขาละ 1 พันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.เอ็มเอฟซีรุกช่องทางการขายต่างจังหวัดเพิ่ม มองศักยภาพการเติบโตตามต่างจังหวัดยังมีสูง พร้อมตั้งเป้ายอดขายสาขาละ 1 พันล้านบาท ลุยเปิดสาขาใหม่เร็วๆ นี้ที่ จ.ระยอง

นางสาวประภา  ปูรณโชติ  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ หรือ AUM  ณ เดือนมีนาคม 2558 อยู่ที่ 402,964 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนรวม 210,587 ล้านบาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 129,071 ล้านบาท กองทุนส่วนบุคคล  40,574 ล้านบาท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน (Property and Infrastructure Fund / REITs) 22,733 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเป็น  438,000 ล้านบาท หรือประมาณ 5% และรักษาระดับรายได้เติบโตในระดับ 20% เช่นเดียวกัน
       
ในส่วนของแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บลจ.เอ็มเอฟซีเตรียมเปิดขายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่ลงทุนเป็นราย sector  และเป็นภูมิภาค (Region) ในเร็วนี้ๆ นอกจากนี้ บลจ.กำลังอยู่ในช่วงยื่นขอทำกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trusts : REITs) ที่ไปลงทุนในต่างประเทศ โดยจะไปลงทุนในคลังสินค้าที่ประเทศอังกฤษ คาดว่าเร็วๆ นี้น่าจะได้เห็นความคืบหน้าของโครงการดังกล่าว
       
ทางด้านแผนงานของกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) นั้นเรามีลูกค้าสถาบันอยู่ที่ประมาณ 80-90% ราย ที่เหลือก็เป็นลูกค้ารายย่อย โดยที่ผ่านมาก็มีลูกค้ารายย่อยเป็นจำนวนมากเข้ามาให้ บลจ.ช่วยบริหารจัดการให้ เนื่องจากการประกันเงินฝากที่เริ่มบังคับใช้ทำให้ลูกค้าในส่วนนี้มีความตื่นตัวมากขึ้น หลังจาก บลจ.ได้ร่วมกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. ไปให้ความรู้แก่ข้าราชการในเรื่องของการวางแผนทางการเงิน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากมีลูกค้าที่เป็นข้าราชการเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งหลังจากนี้บริษัทจะให้ความสำคัญต่อลูกค้ารายย่อยมากขึ้น สำหรับการบริหารกองทุนส่วนบุคคลของ บลจ.นั้นจะเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาทเป็นต้นไป
    
สำหรับกองทุนที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนและมีการดำเนินงานที่โดดเด่น ได้แก่ กองทุนเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล สมาร์ท ฟันด์ (I-SMART) มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่  5.76% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานกองทุนอยู่ที่ 4.03% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่  10.03% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานกองทุนอยู่ที่ 7.24% และกองทุนที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งกองทุนคือ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว (MV - LTF) ซึ่งมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 14.30%  ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานกองทุนอยู่ที่ 9.23% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปีของกองทุนอยู่ที่ 14.02%  ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานกองทุนอยู่ที่ 8.31%
      
   นางสาวประภา  กล่าวต่อว่า การเดินหน้าเปิดสาขาของ บลจ.เอ็มเอฟซีในต่างจังหวัดนั้นก็ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ปัจจุบันเรามีสาขาที่อำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนที่อยู่ตามจังหวัดใหญ่เช่น ขอนแก่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และล่าสุดที่เพิ่งมีการปรับปรุงไปนั้นก็คือสาขาแจ้งวัฒนะ โดยเดือนมิถุนายนนี้จะเปิดตัวสาขาเพิ่มอีกคือที่จังหวัดระยอง ซึ่งจังหวัดถัดไปที่เรากำลังพิจารณาคือ พิษณุโลก นครสวรรค์ และสุราษฎร์ธานี  เพิ่มเติมอีกด้วย ทั้งนี้เราตั้งเป้ายอดขายของสาขาในต่างจังหวัดสาขาละ 1,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาสาขาในต่างจังหวัดก็เริ่มทำยอดขายเข้าเป้าตามที่เราตั้งไว้ด้วยเช่นกัน
    
ส่วนความร่วมมือกับธนาคารออมสิน ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นใหญ่อันดับสองในบริษัท 24.50% นั้นในปีนี้คงเห็นความร่วมมือกันมากขึ้น โดยเฉพาะการนำกองทุนของ บลจ.เอ็มเอฟซีไปขายในสาขาของธนาคารออมสิน ซึ่งปัจจุบันธนาคารออมสินได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เป็นนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนอยู่แล้ว
       
“การเปิดสาขาในต่างจังหวัดถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และสร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า เนื่องจาก บลจ.เอ็มเอฟซีไม่ได้ขายกองทุนผ่านธนาคาร ขณะเดียวกันลูกค้าในต่างจังหวัดเองก็เริ่มรู้จักเอ็มเอฟซีเพิ่มขึ้นในแง่ของการบริหารจัดการกองทุน จึงมีการพูดกันปากต่อปากและเข้ามาหาข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนมากขึ้นอีกด้วย” นางสาวประภากล่าว

ทางด้านนายธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส กลุ่มยุทธศาสตร์ ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า สำหรับแผนการขายกองทุนร่วมกับเอ็มเอฟซีนั้น ปีนี้มุ่งตั้งเป้าให้มีพนักงานที่มีใบอนุญาตขายกองทุนครบ 1,025 คน จากปัจจุบันมี 200 คน เพื่อรองรับการบริการในสาขาของธนาคารได้ครบทั้ง 1,225 สาขาเพื่อนำร่องการขายในปีนี้ก่อนและปีหน้าถึงจะวางเป้าหมายรายได้จากค่าธรรมเนียมจากการขายกองทุนอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าปีนี้รายได้ค่าธรรมเนียมยังเติบโต โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 7-8% ของรายได้ จากปีก่อนมีสัดส่วน 5% ของรายได้ ปัจจุบันธนาคารมีพันธมิตรขายกองทุน 3 รายได้ ได้แก่ บลจ.ธนชาต บลจ.ยูโอบี และ บลจ.เอ็มเอฟซี


กำลังโหลดความคิดเห็น