โตเกียวมารีนประกันชีวิตตั้งเป้าปี 58 ขยายตัวแทนเป็น 3,100 คน เน้นผู้นำตลาดบำนาญ ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมโต 29% แตะ 4,459 ล้านบาท
มร. ลิม เคียน ฮิน กรรมการผู้จัดการ บมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมีเป้าหมายในการสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวม 4,459ล้านบาท โดยเป็นเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1,245 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับปีต่ออายุ 3,214 ล้านบาท พร้อมทั้งมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนตัวแทน 3,100 คน จำนวนสาขาเป็น 19 สาขา
ส่วนผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 3,469 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 915 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อ 2,554 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม 12 เปอร์เซ็นต์ โดยสัดส่วนการขายหลักมาจากช่องทางการขายผ่านตัวแทน มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 2,445 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับปีแรกสำหรับช่องทางตัวแทน 709 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อ 1,736 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม 28 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วยช่องทางการขายประกันกลุ่ม มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 788 ล้านบาท และจากช่องทางการขายอื่น 237 ล้านบาท
“ต่อจากนี้อีก 3 ปีเราจะมีเป้าหมายที่ค่อนข้างท้าทายเพื่อไปสู่การเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งกว่าจะถึงจุดนั้นบริษัทจะต้องสามารถทำให้การเติบโตของบริษัทเร็วกว่าแผนที่วางไว้ เน้นความสำคัญต่อโครงสร้างและปรับกลยุทธ์การขาย รวมถึงการสร้างผลตอบแทนที่สอดคล้องกับผลงานของฝ่ายขายเพื่อเป็นแรงจูงใจในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น”มร.ลิม เคียน ฮิมกล่าว
ด้าน นายสมโพชน์ เกียรติไกรวัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารช่องทางการขาย และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์องค์กร กล่าวถึงผลงานความสำเร็จของช่องทางตัวแทนว่า “โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) ได้เริ่มต้นขยายช่องทางการขายในปี 2553 ด้วยเบี้ยประกันปีแรก 321 ล้านบาท แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 709 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่สูงมาก
ส่วนในปีนี้กลยุทธ์ด้านงานตัวแทนของบริษัทจะเน้นด้วยกัน 5 ด้าน ประกอบด้วย 1. เป็นผู้นำด้านตลาดบำนาญอย่างแท้จริง ด้วยการนำเสนอสินค้า Pension Choice 2. ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านประกันชีวิตแบบบำนาญ โตเกียวมารีนประกันชีวิต ได้ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดอบรมหลักสูตรนักวางแผนการเกษียณอายุให้แก่ตัวแทน เพื่อให้ตัวแทนสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้อง สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย
3. รุกตลาดด้วยการออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง 4. อบรมติวเข้มตัวแทนทุกเดือนเพื่อให้สามารถจัดกิจกรรมเจาะตลาดโดยตรง 5. เสริมแรงบันดาลใจในการทำงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดโปรโมชันแข่งขันคุณวุฒิต่างๆ เพื่อส่งเสริมการสร้างผลผลิต รวมถึงการขยายทีมงาน