xs
xsm
sm
md
lg

“ทิพยประกันชีวิต” ชี้ไตรมาส 3 พร้อมระดมทุนในตลาดหุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บริษัท ทิพยประกันชีวิตเผยผลงานปี 57 เบี้ยรับรวมโต 4,290 ล้านบาท มีกำไรเติบโต 136% ตั้งเป้าปี 58 เบี้ยรับรวมโต 5,500 ล้านบาท เตรียมนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ช่วงไตรมาส 3 พร้อมปรับพอร์ตเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย

นายนพพร บุญลาโภ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัททิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2558 ได้วางแผนกลยุทธ์เชิงรุก โดยการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อกระจายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งในขณะนี้ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทกรุงไทยแอดไวซ์เซอร์รี่ จำกัด รวมทั้งแต่งตั้งผู้รับประกันการจำหน่าย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เคทีซีมิโก้ จำกัด โดยวางแผนยื่นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Filing) ภายในช่วงกลางปี 2558 และคาดว่าจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2558

โดยการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์มาเสริมความแข็งแกร่งให้เงินกองทุนของบริษัทตามแนวทาง Risk Based Capital (RBC) สำหรับรองรับการขยายตัวของธุรกิจประกันชีวิต และเพิ่มความมั่นคงทางการเงิน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือกับลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตรของบริษัท

ทั้งนี้ ในปี 2557 ที่ผ่านมาผลประกอบการของบริษัทได้เติบโตต่อเนื่อง มีเบี้ยรับรวมเติบโตอยู่ที่ 4,290 ล้านบาท มีกำไรจากการลงทุน 398 ล้านบาท คิดเป็น 136% จากปี 2556 และมีกำไรรวมสุทธิ 404 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2556 คิดเป็นอัตราเฉลี่ย 330% จากยอดกำไรสุทธิปี 2556 ที่เคยทำได้ 94 ล้านบาท และคิดเป็นอัตราการเติบโตในตลอด 3 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 390 ล้านบาท และในปี 2558 ตั้งเป้าเบี้ยประกันรับรวมเติบโตที่ 5,500 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 28% จากปี 2557

สำหรับแผนการตลาดในปีนี้จะเน้นช่องทางขายผ่านตัวแทนทั้งโบรกเกอร์และแบงก์แอสชัวรันซ์ และขยายสาขาเพิ่มขึ้นจาก 25 สาขาเป็น 80 สาขา และจัดบูทส่งเสริมการขาย และทำโรดโชว์ให้ความรู้แก่หน่วยงาน ห้างร้านต่างๆ

นายนิธิศ มนูญพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการลงทุน บริษัททิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเตรียมบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ในเบื้องต้นบริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,700 ล้านบาท โดยเตรียมที่จะขายให้แก่ประชาชนทั่วไปในสัดส่วน 25% บอร์ดบริหารได้อนุมัติให้แตกราคาพาร์จากราคาพาร์ละ 100 บาทเป็นราคาพาร์ละ 1 บาทซึ่งต้องรอขอมติจากผู้ถือหุ้น

โดยในส่วนของพอร์ตการลงทุนของบริษัทในปีนี้ ได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นจาก 10% เป็น 15% ตราสารหนี้ 80% ที่เหลือลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยคาดว่าในปีนี้สินทรัพย์การลงทุนน่าจะเพิ่มขึ้นถึง 10,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 8,000 ล้านบาท และคาดว่าผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนในปีนี้อยู่ที่ 5.3%


กำลังโหลดความคิดเห็น