บลจ.อเบอร์ดีน แนะเลือกหุ้นยุโรปเป็นรายธุรกิจ ชี้โอกาสทำกำไรยังมี โดยเฉพาะธุรกิจที่มีเครือข่ายทั่วโลก เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เช่น บริษัทผลิตอาหาร Nestle, บริษัทผลิตยา Roche เป็นต้น
มิสเตอร์เจอร์มี วิทลี่ย์ หัวหน้าทีมผู้จัดการตราสารทุน - สหราชอาณาจักรและทวีปยุโรป บริษัท อเบอร์ดีน แอสเสท แมเนจเมนท์ กล่าวว่า ผลตอบแทนของหุ้นในกลุ่มยุโรปในปี 2557 ที่ผ่านมาไม่ค่อยน่าสนใจ เนื่องจากตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวช้าและภาวะเงินฝืด
อย่างไรก็ตาม เงินยูโรที่อ่อนค่าลงทำให้ธุรกิจส่งออกมีผลประกอบการที่ดี แน่นอนว่ายังมีปัญหาใหญ่เกี่ยวกับอุปสงค์การใช้จ่ายภายใน หากไม่มีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ และการฟื้นตัวการจ้างงาน การใช้จ่ายของผู้บริโภคก็มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้ช้า
ทั้งนี้ ในบางประเทศ เช่น โปรตุเกส ไอร์แลนด์ และสเปน ที่มีการลดตัวเลขอัตราค่าจ้างลงแล้ว ตลาดแรงงานในประเทศเหล่านี้เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นและมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ในขณะที่เรามองว่านักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงมากเกินความจาเป็น ดังนั้นความผันผวนของตลาดหุ้นจะเป็นโอกาสในการลงทุนที่ดี
อย่างไรก็ตาม เรามองว่ายังมีบริษัทหลายแห่งในยุโรปที่มีความโดดเด่น โดยเป็นบริษัทสัญชาติยุโรปแต่มีเครือข่ายธุรกิจทั่วโลกหลายบริษัทเป็นผู้นำตลาดและมีการดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน รวมทั้งมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและการได้รับการคุ้มครองสิทธิบัตร จึงทำให้บริษัทเหล่านี้ได้เปรียบในการแข่งขัน และสามารถวางแผนธุรกิจเพื่อการดำเนินงานในระยะยาวต่อไป
ยกตัวอย่างกลุ่มบริษัทผลิตอาหาร Nestle, บริษัทผลิตยา Roche และบริษัทผลิตระบบกุญแจล็อก Assa Abloy ของสวีเดน ที่มีการดำเนินธุรกิจอยู่ทั่วโลก และมีรายรับที่ได้จากในทวีปยุโรปต่ำกว่าจากภูมิภาคอื่นๆ หลายบริษัทที่น่าสนใจลงทุนได้มีการขยายการลงทุนไปในกลุ่มตลาดเกิดใหม่เป็นอย่างมาก
มิสเตอร์วิทลี่ย์ กล่าวต่อว่า เราชอบบริษัทในกลุ่มยุโรปที่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของใช้จำเป็นซึ่งจะต้องมีการซื้อสินค้ามาทดแทนอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นธุรกิจที่ทำให้บริษัทสามารถรักษาลูกค้าเดิมและมีอำนาจในการกำหนดราคา ตัวอย่างของบริษัทเหล่านี้ ได้แก่ บริษัทผลิตเครื่องยนต์สาหรับเครื่องบินเจ็ต บริษัทสร้างลิฟต์ และบริษัทผลิตสารอินซูลิน
โดยที่ผ่านมาสิ่งที่ทำให้บริษัทเหล่านี้มีผลประกอบการไม่ดีนักมาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยุโรปที่อยู่ในระดับต่ำ ท่ามกลางสัญญาณของภาวะเงินฝืดที่เกิดขึ้น แต่เราเชื่อว่าความสามารถในการแข่งขันของบริษัทเหล่านี้จะดีขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงและเงินยูโรที่อ่อนค่าลง ในขณะเดียวกัน ตลาดสินเชื่อที่กำลังมีทิศทางที่ดีขึ้นก็เป็นปัจจัยบวกต่ออุปสงค์การใช้จ่าย
“หุ้นยุโรปมีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ และสามารถให้รายได้อย่างสม่ำเสมอในรูปของเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น การตัดสินใจของธนาคารกลางของยุโรปเพื่อรับซื้อพันธบัตรเป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าธนาคารกลางของยุโรปให้การสนับสนุนตลาด แม้ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจอาจจะอยู่ในระดับต่ำ แต่บริษัทต่างๆ ที่อเบอร์ดีนเลือกลงทุนต่างยังคงมีความแข็งแกร่งและมีแนวโน้มในการสร้างผลกำไรที่น่าสนใจ”มิสเตอร์วิทลี่ย์กล่าว
