xs
xsm
sm
md
lg

Money Tips : เวลา ความเสี่ยง และการเตรียมพร้อม (1)

เผยแพร่:

คอลัมน์ Money Tips
โดยเสกสรร โตวิวัฒน์ CFP®
กองทุนบัวหลวง

เวลาเลือกว่าจะลงทุนอะไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย สิ่งที่นักวางแผนการเงินจะให้ความสำคัญมากกว่าความเสี่ยงที่ผู้รับคำปรึกษาจะยอมรับได้ก็คือ “ระยะเวลาที่สามารถลงทุนได้” เพราะเป็นเงื่อนไขที่ผูกพันกับความเสี่ยงที่ผู้รับคำปรึกษาไม่อาจกำหนดเองได้

รับความเสี่ยงได้สูง อายุยังน้อย ชอบเล่นหุ้น เก็บเงินไว้ดาวน์บ้านอีก 6 เดือนข้างหน้า

จะเก่งแค่ไหน ก็ไม่ควรลงทุนหุ้น เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ไม่เหลือเวลาให้แก้ตัว

รับความเสี่ยงได้น้อย แต่เก็บยาวไว้รอเกษียณในอีก 20 ปีข้างหน้า

จะกลัวแค่ไหน แบบนี้นักวางแผนการเงินก็ยังแนะนำให้มีหุ้นไว้บ้าง เพราะจะเสียโอกาสในการลงทุน

ไม่มีสูตรตายตัวว่าระยะเวลาลงทุนนานแค่ไหนถึงควรจะมีหุ้นไว้ในพอร์ต โดยทั่วไปเวลาลงทุนที่ยาวขึ้นก็สามารถลงทุนในหุ้นได้มากขึ้น แต่จะลงทุนแค่ไหน ก็ค่อยดูเรื่องอื่นๆ ประกอบ เช่น การยอมรับความเสี่ยงเฉพาะตัว ระดับความสำคัญของเป้าหมายที่จะเก็บออม ความรู้ความเข้าใจเรื่องหุ้นของผู้รับคำปรึกษา ฯลฯ

ระยะเวลาการลงทุน โดยทั่วไปอาจแบ่งได้เป็น 3 ช่วง คือ

ระยะสั้น (0-3 ปี)

ระยะกลาง (3-7 ปี)

และระยะยาว (7 ปีขึ้นไป)

การลงทุนระยะสั้นต้องระมัดระวังเรื่องการลงทุนในหุ้นให้มาก เพราะหากเกิดปัญหาจะไม่มีเวลาให้แก้ตัว ยิ่งในปัจจุบันที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง มีปัจจัยทั้งในประเทศและนอกประเทศมาเกี่ยวข้องมากมายที่ส่งผลให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก

3 ปี สำหรับหลายๆ คนอาจคิดว่ายาวเกินพอที่จะลงทุนในหุ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ลงทุนจะมีเวลาลงทุน 3 ปีไปตลอด เมื่อผ่านไป 1 ปี เวลาสำหรับลงทุนจะเหลือแค่ 2 ปี เมื่อผ่านไป 2 ปี ก็เหลือเวลาลงทุนแค่ปีเดียวเท่านั้น ถ้าตอนเริ่มต้นมีหุ้นในพอร์ตสัก 20% ยามที่เหลือเวลาลงทุนปีเดียวก็ควรปรับสัดส่วนให้เหลือแต่ตราสารหนี้เท่านั้น แล้วสมมติว่าตอนแรกลงทุนในหุ้นไว้เยอะถึง 50% หาก 2 ปีแรกเกิดตลาดหุ้นไม่เป็นใจ ผ่านไป 2 ปีขาดทุนในหุ้น เงินในพอร์ตเหลือไม่พอใช้ตามเป้าหมาย เหลือปีเดียวจะใช้เงินแล้ว จะเป็นอย่างไร

จะลงทุนหุ้นต่อเพื่อลุ้นเอาคืน หรือขายทิ้งมาใส่ตราสารหนี้แล้วหาเงินส่วนอื่นมาเติมแทน?

ส่วนการลงทุนระยะกลางและระยะยาว ถือว่านานพอที่จะแบ่งมาลงทุนในหุ้นได้ แต่สิ่งสำคัญคือเมื่อเวลาผ่านไป เวลาลงทุนเหลือน้อยลงต้องมีการปรับปรุงพอร์ตใหม่ ลดสัดส่วนหุ้นเมื่อเวลาลงทุนลดน้อยลงไปเรื่อยๆ แต่ไม่จำเป็นต้องเฝ้าละเอียดยิบปรับลดสัดส่วนทุกปี โดยเฉพาะการลงทุนระยะกลางที่มักจะนิยมผสมผสานหุ้นในสัดส่วนที่สูง หรือผู้ลงทุนบางคนที่รับความเสี่ยงได้สูงก็อาจจะเลือกลงทุนหุ้นทั้งหมดโดยลืมไปว่า เวลาไม่เคยเหนื่อย เดินไปได้เรื่อยๆ ไม่เคยหยุดรอใคร พอร์ตลงทุนระยะกลางจะกลายเป็นพอร์ตการลงทุนระยะสั้นได้ภายในไม่กี่ปี

สัปดาห์หน้าลองมาดูกันครับว่า แล้วเราจะทำอย่างไรกับพอร์ตการลงทุนระยะกลางและระยะยาวได้บ้าง






กำลังโหลดความคิดเห็น