บลจ.วรรณมองตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเพียงระยะสั้นๆ ประเมินปัจจัยบวกเพียบหนุนหุ้นไทยให้เติบโตต่อ มองปลายปีดัชนีเคลื่อนไหว 1,550-1,600 จุด พร้อมส่งกองทุนทาร์เกตฟันด์ทำกำไรล่วงหน้า ตั้งเป้าผลตอบแทน 5% ภายใน 5 เดือน
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงและเร็ว จากหลายปัจจัยทั้งในด้านการขายทำกำไรก่อนเข้าช่วงวันหยุดยาวสิ้นปี หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมาค่อนข้างมากแล้วในปีนี้ และความกังวลจากกระแสข่าวลือต่างๆ ทำให้ตลาดปรับตัวลดลงกว่า 5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยเองก็ยังคงมีปัจจัยสนับสนุนอีกค่อนข้างมาก จึงมองว่าเป็นเพียงการปรับตัวลดลงระยะสั้น (Short-term profit taking) เท่านั้น และตลาดหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวต่อไปได้ โดยมองว่าในช่วงปลายปีดัชนีฯ น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,600 จุด
“ผมมองว่า ในด้านปัจจัยพื้นฐานของหุ้นยังมีปัจจัยบวกรออยู่ข้างหน้าอีกหลายปัจจัย ทั้งในเรื่องของปัจจัยต่างประเทศเอง ได้แก่ แนวโน้มของเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาซึ่งสนับสนุนให้นักลงทุนมีความสนใจการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น / สภาพคล่องที่ล้นระบบจากการผ่อนคลายนโยบายการเงิน (QE) ของธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่นที่ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงได้เพิ่มเติม และการยังไม่รีบเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อยังคงผ่อนคลายจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ทำให้มองว่าการลงทุนในหุ้นยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจในการลงทุนอยู่สำหรับนักลงทุน”
นายวิน กล่าวต่อว่า ขณะที่เศรษฐกิจไทยในปีหน้าคาดว่าจะดีขึ้นจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน เม็ดเงินลงทุนของภาครัฐที่ทยอยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในต้นปีหน้า โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น รถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง ที่เริ่มมีการประมูลกันไปบ้างแล้ว และบางเส้นทางก็น่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือน ม.ค. 58 รวมทั้งฐานจีดีพีที่ต่ำในปีนี้ ประกอบกับแนวโน้มที่ กนง.อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้ และราคาน้ำมันที่ปรับลดลงก็น่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในฐานะที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิและทำให้กำไรขั้นต้นของบริษัทจดทะเบียนปรับเพิ่มขึ้นได้
“การปรับฐานในช่วงที่ผ่านมาของตลาดหุ้นไทยก็ทำให้มูลค่าหุ้นไทย (PE) ปรับตัวลดลงมาซื้อขายที่ระดับ PE ปี 2558 ที่ระดับเพียง 13.5 เท่า ขณะที่กำไรของบริษัทจดทะเบียนสูงกว่า 15% ทำให้ระดับ PEG ของหุ้นไทยอยู่ต่ำกว่า 1.0 เท่า ซึ่งสะท้อนถึงราคาหุ้นที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับการเติบโตของกำไรบริษัท ซึ่งนับได้ว่าเป็นระดับมูลค่าหุ้นที่ยังไม่แพงมากและยังเป็นที่น่าสนใจ ซึ่งทำให้ยังสามารถดึงเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติได้อยู่” นายวินกล่าว
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงในช่วงนี้เป็นโอกาสที่ดีในการเข้าสะสมหุ้น จากปัจจัยบวกที่รออยู่ข้างหน้าดังกล่าว และมีโอกาสที่ตลาดจะ Rebound ได้ในระยะข้างหน้า ดังนั้น ทาง บลจ.วรรณจึงตัดสินใจเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ สปอท 5/3 ฟันด์ ในช่วงระหว่างวันที่ 15-19 ธ.ค. 57 โดยคาดหวังผลตอบแทน 5% ภายใน 5 เดือน เพื่อรองรับจังหวะที่ดัชนีฯ ย่อตัวลงในช่วงนี้เพื่อรอการปรับขึ้นในช่วงถัดไป
ทั้งนี้ ในปี 2557 บลจ.วรรณได้ส่งกองทุนประเภท Trigger Fund ประสบความสำเร็จไปแล้วหลายกองทุน โดยกองทุนเปิด ONE-SPOT5/3 จะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจไทยและโลกที่ฟื้นตัว รวมทั้งมีแนวโน้มการเติบโตของกำไรบริษัทที่โดดเด่นและยังมีมูลค่าหุ้นต่ำกว่าระดับที่เหมาะสม (Undervalue) อย่างเช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ อสังหาริมทรัพย์ โทรคมนาคม โรงพยาบาล และท่องเที่ยว เป็นหลัก