ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พ่อหลวง” ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจของคนไทยทั้งชาติ ปวงชนชาวไทยได้ร่วมใจถวายพระพรพระองค์ และสมเด็จพระบรมมหาราชินีนาถ “แม่หลวง” ขอพระองค์ทั้งสอง และพระบรมวงศานุวงศ์มีพระพลานามัยแข็งแรง ทรงพระเกษมสำราญ ทรงเบิกบานพระหฤทัย ขอทรงเป็นมิ่งขวัญและเป็นกำลังใจของปวงชนชาวไทยไปอีกนานแสนนาน
เฉพาะคำสอนยิ่งใหญ่มากมายของพระองค์ ก็ได้ทรงเสริมสร้างชีวิตชาวไทยให้เข้มแข็ง ชาติไทยให้แข็งแกร่ง ร่มเย็นเป็นสุข ใช้ประโยชน์ได้จริงมากมาย
ต่อเนื่องจากครั้งที่แล้ว ซึ่งผมได้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณใน “คำสอนของพ่อ” ทั้งเรื่อง “พระมหาชนก” เรื่องความมานะ เข้มแข็ง และเรื่อง “รู้รักสามัคคี” เพื่อส่งเสริมความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ อันเป็นพลังแห่งแผ่นดินที่สำคัญ
อีกคำสอนหนึ่งที่เป็นพระมหากรุณาธิคุณ คือเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” คือ การมีความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี มีความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง ซื่อสัตย์ สุจริต ขยัน อดทน แบ่งปัน นำสู่ ชีวิต/เศรษฐกิจ/สังคม ที่สมดุลมั่นคงยั่งยืน ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญที่เห็นได้ชัดจากช่วง “วิกฤตเศรษฐกิจไทย” ปี 2540 ซึ่งมีการกู้เกินตัว ใช้จ่ายเกินตัว เก็งกำไรเกินตัวกันมากมายจนทำให้บริษัทมากมายต้องปิดตัวไป และประเทศต้องเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี ซึ่งมีคุณค่าปกป้องชาติไทยให้ผ่านวิกฤตการณ์ครั้งต่อมาได้เป็นอย่างดี
ในปี 2550 โลกต้องเผชิญวิกฤตการเงินโลก กิจการสถาบันการเงินใหญ่ๆ เช่น เลห์แมน บราเธอร์ส แบร์เสติร์น ฯลฯ ต้องล้มละลายปิดกิจการไป มีการสรุปกันว่า เป็นเพราะ “กู้เกินตัว ใช้จ่ายเกินตัว เก็งกำไรเกินตัว” ซึ่งก็คุ้นๆ แต่ด้วยคนไทยได้เรียนรู้ “หลักการเศรษฐกิจพอเพียง” ของพระองค์ไว้ปฏิบัติ ประเทศไทยก็ได้ผ่านสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจโลกมาอย่างแข็งแกร่ง
เลห์แมน บราเธอร์สมีหนี้ต่อทุนถึง 30 เท่า แต่สถาบันการเงินไทยจะมีหนี้ต่อทุนเพียง 10-12 เท่า
สำหรับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ในปี 2540 มีหนี้ต่อทุน 2.1 เท่าเมื่อกลางปี ก่อนลอยตัวค่าเงินบาทในสมัยรัฐบาล พลเอก ชวลิต และ 5.1 เท่าเมื่อปลายปี แต่ในปี 2550 มีหนี้ต่อทุนเพียง 1.1 เท่า!
ประเทศไทยจึงฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้เร็วเป็นประเทศแรกๆ ของโลกด้วยปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง”
ผมเองมีความประทับใจใน “คำสอนของพ่อ” ที่ทรงคุณค่า จึงได้ถือโอกาสส่งสารภายในบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์กิมเอ็ง เพื่อร่วมกันซาบซึ้งใจในบทเรียนชีวิตทั้งสาม ซึ่งเป็นคำสอนสามารถประยุกต์ใช้ได้จริงในบริษัทของเรา ดังนี้
...คำสอน “พระมหาชนก” ปลูกฝังคนไทยให้มีความมานะ เข้มแข็ง อดทน ทำหน้าที่ส่วนตนให้เต็มที่ ก็จะมีเทพช่วยประทานพรให้เพิ่มเติม
ชาวเมย์แบงก์กิมเอ็งก็ได้มีความมานะ เข้มแข็ง อดทนเสมอมา ปีที่แล้วธุรกิจหนาแน่น เราก็สามารถร่วมแรงร่วมใจ สร้างกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เราผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านน้ำ (ท่วม) ผ่านไฟ (ไหม้) ร่วมกันมามากมาย ปีนี้เริ่มต้นปีอย่างฝืดเคือง เทรดปลายปีมีหุ้นเสี่ยงเยอะ เราก็ยังร่วมแรงร่วมใจอย่างเข้มแข็ง หวังและเชื่อว่าเมื่อครบปี ผลการดำเนินงานของบริษัทเราก็ยังน่าจะใช้ได้ เมื่อเทียบกับหลายๆ ปีก่อนหน้านี้ (พูดมากไม่ได้ เพราะเป็นข้อมูลภายใน...ฮา)
...คำสอน “รู้รัก สามัคคี” ปลูกฝังคนไทยให้มีรู้รัก สามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย
ชาวเมย์แบงก์กิมเอ็งเป็นโบรกเกอร์แรกที่รักษาแชมป์มาได้ติดต่อกัน 13 ปี เราแข็งแกร่ง ไม่ใช่เพราะความสามารถของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเพราะเรา “ทุกๆ คน” ร่วมแรงร่วมใจ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ด้วยเราทุกคนยืนหยัดเคียงข้างกันเสมอ “รวมเป็นหนึ่ง เราเป็นหนึ่ง” เป็นดังอวัยวะของกายเดียวกัน แต่ละส่วนแม้มีความต่างกัน มีหน้าที่ไม่เหมือนกัน แต่อยู่เพื่อกันและกัน ก็ทำให้เรารักษาความเป็นหนึ่งมา 13 ปี และจะร่วมกันรักษาความเป็น “ที่ 1” ตลอดไป
...คำสอน “หลักการเศรษฐกิจพอเพียง” ปลูกฝังคนไทยเรียนรู้ทางสายกลาง มีความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี มีความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง ซื่อสัตย์ สุจริต ขยัน อดทน แบ่งปัน นำสู่ ชีวิต/เศรษฐกิจ/สังคม ที่สมดุลมั่นคงยั่งยืนอย่างแท้จริง
ชาวเมย์แบงก์กิมเอ็งเรียนรู้ทางสายกลาง รัก สัตย์ซื่อ และจริงใจกับลูกค้าเสมอ ให้มีความพอประมาณ (ไม่กู้เกินตัว ใช้จ่ายเกินตัว เก็งกำไรเกินตัว) มีเหตุผล (ปัจจัยพื้นฐาน) มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี (บริหารความเสี่ยง) ทำให้เราผ่าน “ลูกโป่ง” แตกปี 2008 มาอย่างปลอดภัย ลูกค้าเจ็บตัวกันน้อย ในยุคนั้นโบรกเกอร์บางแห่งขาดทุนกว่าพันล้านบาท บางแห่ง 200 กว่าล้านบาท 60 กว่าล้านบาท ฯลฯ เราไม่มีหนี้เสียเลย! และในช่วงที่ผ่านมาเริ่มเห็นหุ้นบางหุ้นตก 20-30% ในวันเดียว วอร์แรนต์ของบางหุ้นตกเกิน 50% ในวันเดียว! แต่ลูกค้าของเราทั่วไปก็ดูจะมีความระมัดระวังกันดี สังเกตได้จากที่เราไม่มีหนี้เสียเลยอีกเช่นกัน
คำสอนดีๆ ของพระองค์เป็นบทเรียนดีๆ ที่เสริมสร้างชีวิตคนไทย และชาวเมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) อย่างดี ด้วยความ “มานะ เข้มแข็ง” และ “รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง” จะทำให้เรา “รวมเป็นหนึ่ง เราเป็นหนึ่ง” ไปอีกนานแสนนาน
ในโอกาสเทศกาลวันพ่อ ขอเชิญชวนชาวไทยร่วมใจถวายพระพร ร่วมแสดงความรักต่อคุณพ่อคุณแม่ และทำหน้าที่เป็นพ่อที่ดี เป็นพ่อที่รักภรรยา เป็นพ่อที่น่ารัก พร้อมดูแลสั่งสอนให้กำลังใจลูก สนับสนุนลูกเสมอ เพื่อชีวิตที่เป็นสุขสมดุลยั่งยืนตลอดไปครับ
มนตรี ศรไพศาล (montree4life@yahoo.com; www.oknation.net/blog/richwithlove; @montrees)
เฉพาะคำสอนยิ่งใหญ่มากมายของพระองค์ ก็ได้ทรงเสริมสร้างชีวิตชาวไทยให้เข้มแข็ง ชาติไทยให้แข็งแกร่ง ร่มเย็นเป็นสุข ใช้ประโยชน์ได้จริงมากมาย
ต่อเนื่องจากครั้งที่แล้ว ซึ่งผมได้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณใน “คำสอนของพ่อ” ทั้งเรื่อง “พระมหาชนก” เรื่องความมานะ เข้มแข็ง และเรื่อง “รู้รักสามัคคี” เพื่อส่งเสริมความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ อันเป็นพลังแห่งแผ่นดินที่สำคัญ
อีกคำสอนหนึ่งที่เป็นพระมหากรุณาธิคุณ คือเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” คือ การมีความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี มีความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง ซื่อสัตย์ สุจริต ขยัน อดทน แบ่งปัน นำสู่ ชีวิต/เศรษฐกิจ/สังคม ที่สมดุลมั่นคงยั่งยืน ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญที่เห็นได้ชัดจากช่วง “วิกฤตเศรษฐกิจไทย” ปี 2540 ซึ่งมีการกู้เกินตัว ใช้จ่ายเกินตัว เก็งกำไรเกินตัวกันมากมายจนทำให้บริษัทมากมายต้องปิดตัวไป และประเทศต้องเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี ซึ่งมีคุณค่าปกป้องชาติไทยให้ผ่านวิกฤตการณ์ครั้งต่อมาได้เป็นอย่างดี
ในปี 2550 โลกต้องเผชิญวิกฤตการเงินโลก กิจการสถาบันการเงินใหญ่ๆ เช่น เลห์แมน บราเธอร์ส แบร์เสติร์น ฯลฯ ต้องล้มละลายปิดกิจการไป มีการสรุปกันว่า เป็นเพราะ “กู้เกินตัว ใช้จ่ายเกินตัว เก็งกำไรเกินตัว” ซึ่งก็คุ้นๆ แต่ด้วยคนไทยได้เรียนรู้ “หลักการเศรษฐกิจพอเพียง” ของพระองค์ไว้ปฏิบัติ ประเทศไทยก็ได้ผ่านสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจโลกมาอย่างแข็งแกร่ง
เลห์แมน บราเธอร์สมีหนี้ต่อทุนถึง 30 เท่า แต่สถาบันการเงินไทยจะมีหนี้ต่อทุนเพียง 10-12 เท่า
สำหรับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ในปี 2540 มีหนี้ต่อทุน 2.1 เท่าเมื่อกลางปี ก่อนลอยตัวค่าเงินบาทในสมัยรัฐบาล พลเอก ชวลิต และ 5.1 เท่าเมื่อปลายปี แต่ในปี 2550 มีหนี้ต่อทุนเพียง 1.1 เท่า!
ประเทศไทยจึงฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้เร็วเป็นประเทศแรกๆ ของโลกด้วยปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง”
ผมเองมีความประทับใจใน “คำสอนของพ่อ” ที่ทรงคุณค่า จึงได้ถือโอกาสส่งสารภายในบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์กิมเอ็ง เพื่อร่วมกันซาบซึ้งใจในบทเรียนชีวิตทั้งสาม ซึ่งเป็นคำสอนสามารถประยุกต์ใช้ได้จริงในบริษัทของเรา ดังนี้
...คำสอน “พระมหาชนก” ปลูกฝังคนไทยให้มีความมานะ เข้มแข็ง อดทน ทำหน้าที่ส่วนตนให้เต็มที่ ก็จะมีเทพช่วยประทานพรให้เพิ่มเติม
ชาวเมย์แบงก์กิมเอ็งก็ได้มีความมานะ เข้มแข็ง อดทนเสมอมา ปีที่แล้วธุรกิจหนาแน่น เราก็สามารถร่วมแรงร่วมใจ สร้างกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เราผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านน้ำ (ท่วม) ผ่านไฟ (ไหม้) ร่วมกันมามากมาย ปีนี้เริ่มต้นปีอย่างฝืดเคือง เทรดปลายปีมีหุ้นเสี่ยงเยอะ เราก็ยังร่วมแรงร่วมใจอย่างเข้มแข็ง หวังและเชื่อว่าเมื่อครบปี ผลการดำเนินงานของบริษัทเราก็ยังน่าจะใช้ได้ เมื่อเทียบกับหลายๆ ปีก่อนหน้านี้ (พูดมากไม่ได้ เพราะเป็นข้อมูลภายใน...ฮา)
...คำสอน “รู้รัก สามัคคี” ปลูกฝังคนไทยให้มีรู้รัก สามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย
ชาวเมย์แบงก์กิมเอ็งเป็นโบรกเกอร์แรกที่รักษาแชมป์มาได้ติดต่อกัน 13 ปี เราแข็งแกร่ง ไม่ใช่เพราะความสามารถของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเพราะเรา “ทุกๆ คน” ร่วมแรงร่วมใจ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ด้วยเราทุกคนยืนหยัดเคียงข้างกันเสมอ “รวมเป็นหนึ่ง เราเป็นหนึ่ง” เป็นดังอวัยวะของกายเดียวกัน แต่ละส่วนแม้มีความต่างกัน มีหน้าที่ไม่เหมือนกัน แต่อยู่เพื่อกันและกัน ก็ทำให้เรารักษาความเป็นหนึ่งมา 13 ปี และจะร่วมกันรักษาความเป็น “ที่ 1” ตลอดไป
...คำสอน “หลักการเศรษฐกิจพอเพียง” ปลูกฝังคนไทยเรียนรู้ทางสายกลาง มีความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี มีความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง ซื่อสัตย์ สุจริต ขยัน อดทน แบ่งปัน นำสู่ ชีวิต/เศรษฐกิจ/สังคม ที่สมดุลมั่นคงยั่งยืนอย่างแท้จริง
ชาวเมย์แบงก์กิมเอ็งเรียนรู้ทางสายกลาง รัก สัตย์ซื่อ และจริงใจกับลูกค้าเสมอ ให้มีความพอประมาณ (ไม่กู้เกินตัว ใช้จ่ายเกินตัว เก็งกำไรเกินตัว) มีเหตุผล (ปัจจัยพื้นฐาน) มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี (บริหารความเสี่ยง) ทำให้เราผ่าน “ลูกโป่ง” แตกปี 2008 มาอย่างปลอดภัย ลูกค้าเจ็บตัวกันน้อย ในยุคนั้นโบรกเกอร์บางแห่งขาดทุนกว่าพันล้านบาท บางแห่ง 200 กว่าล้านบาท 60 กว่าล้านบาท ฯลฯ เราไม่มีหนี้เสียเลย! และในช่วงที่ผ่านมาเริ่มเห็นหุ้นบางหุ้นตก 20-30% ในวันเดียว วอร์แรนต์ของบางหุ้นตกเกิน 50% ในวันเดียว! แต่ลูกค้าของเราทั่วไปก็ดูจะมีความระมัดระวังกันดี สังเกตได้จากที่เราไม่มีหนี้เสียเลยอีกเช่นกัน
คำสอนดีๆ ของพระองค์เป็นบทเรียนดีๆ ที่เสริมสร้างชีวิตคนไทย และชาวเมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) อย่างดี ด้วยความ “มานะ เข้มแข็ง” และ “รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง” จะทำให้เรา “รวมเป็นหนึ่ง เราเป็นหนึ่ง” ไปอีกนานแสนนาน
ในโอกาสเทศกาลวันพ่อ ขอเชิญชวนชาวไทยร่วมใจถวายพระพร ร่วมแสดงความรักต่อคุณพ่อคุณแม่ และทำหน้าที่เป็นพ่อที่ดี เป็นพ่อที่รักภรรยา เป็นพ่อที่น่ารัก พร้อมดูแลสั่งสอนให้กำลังใจลูก สนับสนุนลูกเสมอ เพื่อชีวิตที่เป็นสุขสมดุลยั่งยืนตลอดไปครับ
มนตรี ศรไพศาล (montree4life@yahoo.com; www.oknation.net/blog/richwithlove; @montrees)