บลจ.ทิสโก้ประเมินแม้หุ้นไทยราคาแพง แต่นักลงทุนระยะยาวยังเฉลี่ยซื้อสะสมได้ เชื่อในระยะยาวโอกาสเติบโตยังมีสูง ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยคงต้องรอช่วงครึ่งหลังปี 2558 คาดได้เห็นโอกาสเติบโตจากการนำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมาจัดทำแผนการลงทุน
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2558 เรามองว่าอาจจะต้องรอช่วงครึ่งปีหลังถึงจะได้เห็นการเติบโต เนื่องจากช่วงนี้จนถึงต้นปี 2558 นั้นเป็นช่วงการนำนโนบายมาจัดทำแผนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในโครงการหลายๆ อย่างก็อาจจะต้องใช้เวลา เช่นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
สำหรับหุ้นไทยนั้น นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าตอนนี้หุ้นไทยแพงถ้าเทียบกับหุ้นต่างประเทศ แต่หากเป็นการลงทุนระยะยาวนั้นเรามองว่ายังมีโกรทต่อไปได้อีกประมาณ 10-15% ซึ่งหากเป็นนักลงทุนระยะยาวก็ทยอยซื้อเฉลี่ยสะสมได้ ในส่วนปีนี้ก็ถือเป็นปีที่ดีสำหรับหุ้นขนาดกลางและเล็ก บลจ.ทิสโก้ก็มีกองทุนที่ลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กด้วยเช่นกัน ผลการดำเนินงานในปีนี้ก็ค่อนข้างโดดเด่น การคัดเลือกหุ้นเราก็จะเน้นหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานโดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง
ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่นั้นเราก็มองว่าเป็นโอกาสที่จะกระจายเข้าไปลงทุนเช่นกันเพราะอัตราการเติบโตก็ยังมี ทั้งนี้ มาตรการสกัดหุ้นร้อนนั้นไม่น่าจะกระทบพอร์ตการลงทุนในส่วนของนักลงทุนสถาบัน คาดว่าน่าจะกระทบนักลงทุนที่เป็นพวกเก็งกำไรมากกว่า
สำหรับโปรดักต์ของ บลจ.ในส่วนของหุ้นไทยนั้นเราก็มีครบสามารถตอบโจทย์การลงทุนให้แก่นักลงทุนได้ ขณะที่กองทุนต่างประเทศก็มีหลากหลายประเทศให้นักลงทุนได้เลือกลงทุน ซึ่งที่ผ่านมา บลจ.ทิสโก้มีผลงานโดดเด่นโดยเฉพาะกองทุนทริกเกอร์ที่มีทั้งหุ้นไทย และกองทุนทริกเกอร์ที่ไปลงทุนหุ้นต่างประเทศ ทั้งนี้ บลจ.ได้มีกองทุนเปิดขนานไปกับกองทุนทริกเกอร์ที่ไปลงทุนต่างประเทศด้วย
“กองทุนทริกเกอร์ฟันด์เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ค่อยมีเวลาติดตามดูภาวะตลาด ซึ่งที่ผ่านมา บลจ.ทิสโก้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน นอกจากนี้เราก็มีกองทุนเปิดทั่วไปที่ไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมือนกับกองทุนทริกเกอร์ โดยกองทุนเปิดนั้นก็เหมาะกับนักลงทุนที่มีเวลาเกาะติดสภาวะตลาด” นายธีรนาถกล่าว
ทั้งนี้ กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่เราสามารถบริหารได้เข้าเป้าหมายโดยใช้เวลาที่น้อยที่สุดคือ 5 วัน ทั้งนี้เราก็ยังมีกองทุนทริกเกอร์ที่ยังไม่ครบกำหนดอายุอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งหากไม่ทริกเกอร์ตามที่กำหนดไว้ก็จะทำเป็นกองทุนเปิด บลจ.ทิสโก้ ก็มีกองทุนที่ยังไม่ทริกเกอร์อยู่ไม่มากส่วนใหญ่ก็เป็นกองทริกเกอร์ที่ไปลงทุนในหุ้นจีน อย่างไรก็ตาม ปี 2558 เราก็ยังคงมองหาจังหวะและตลาดที่เหมาะสมสำหรับการลงทุน ก็อาจจะมีกองทุนทริกเกอร์ออกมาอีกซึ่งก็คงจะต้องหาตลาดที่มี upside มากพอ และมีแวลูที่น่าสนใจ โดยผลตอบแทนที่เหมาะสมน่าจะอยู่ที่ 8%
เผย AUM ปีนี้โต 30%
นายธีรนาถ กล่าวต่อว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บลจ.ตั้งเป้าการเติบโตของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารจัดการ หรือ AUM ไว้ที่ 15% แต่ปัจจุบัน AUM ของเราเติบโตขึ้นประมาณ 30% หรือที่ 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนต่างประเทศ 52% และกองทุนในประเทศอีก 48% ซึ่งสิ้นปี 2556 เรามี AUM รวมอยู่ที่ 18,000 ล้านบาท สำหรับปี 2558 นั้นก็คงจะตั้งเป้าไว้ที่ 15% ตามเดิม