บลจ.กสิกรไทย แนะลงทุนกองทุน “เค โกลบอล แอลโลเคชั่น” ชูกลยุทธ์ลงทุนทั้งหุ้นและตราสารหนี้ทั่วโลก พร้อมมองเศรษฐกิจโลกมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่อง ล่าสุด เตรียมจ่ายปันผลกองทุนต่างประเทศ 4 กองทุน กว่า 600 ล้านบาท
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจในยุโรป และญี่ปุ่น รวมถึงมองว่าเศรษฐกิจโลกในภาพรวมยังมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความผันผวนมากขึ้นด้วย จากทั้งสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง เช่น สถานการณ์ในอิรัก หรือความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
ทั้งนี้ สำหรับกองทุน K-GA ของ บลจ.กสิกรไทย เป็นทางเลือกที่เหมาะต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน เนื่องจากกองทุนหลักมีการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ ทั้งหุ้น และตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยง และลดความผันผวนลง ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นมากขึ้น ในสัดส่วน 57% ที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้ 20% และถือครองเงินสดไว้อีกประมาณ 23%
นอกจากนี้ กองทุนจะเน้นเข้าลงทุนในเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมองว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังคงมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังให้น้ำหนักการลงทุนในยุโรปมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากมีมุมมองเชิงบวกต่อมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งสอดคล้องต่อการที่ ECB เพิ่งมีการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และเปิดเผยถึงแผนการซื้อสินทรัพย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของยุโรป
นายนาวิน กล่าวต่อว่า ในขณะนี้ บลจ.เตรียมจ่ายปันผลกองทุนต่างประเทศ จำนวน 4 กองทุน คิดเป็นมูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้นกว่า 626 ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค โกลบอล แอลโลเคชั่น (K-GA) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2557-31 สิงหาคม 2557 โดยจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.15 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน (K-CHINA) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2556-31 สิงหาคม 2557 โดยจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.75 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100 (K-USXNDQ) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2557-31 สิงหาคม 2557 โดยจ่ายเงินปันผลในอัตรา 1.00 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดเค มีน่า หุ้นทุน (K-MENA) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2557-31 สิงหาคม 2557 โดยจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย โดยทั้ง 4 กองทุน จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 08.00 น. ของวันที่ 2 กันยายน 2557 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวพร้อมกันในวันที่ 12 กันยายน 2557 นี้
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนต่างประเทศทั้ง 4 กองทุนในรอบที่ผ่านมา นับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ โดยเฉพาะกองทุน K-USXNDQ ซึ่งในรอบบัญชีที่ผ่านมา (1 มี.ค. 2557-31 ส.ค.2557) กองทุนดังกล่าวจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 2 ครั้ง โดยครั้งแรกจ่ายไปแล้วในอัตรา 0.75 บาทต่อหน่วย และจะจ่ายครั้งนี้อีกในอัตรา 1.00 บาทต่อหน่วย รวมแล้วทั้งสิ้น 1.75 บาทต่อหน่วย ทำให้เมื่อคิดเป็นอัตราเงินปันผลเฉลี่ยต่อปี (Dividend Yield) จากการจ่ายทั้งสองครั้งเท่ากับ 13.58% ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือน ทั้งนี้ เนื่องมาดัชนี Nasdaq ได้มีการปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม IT ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 14% จึงมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างจำกัด และมีอัตราส่วนราคาต่อกำไรที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีตแล้วที่ 19 เท่า ทั้งนี้ เพื่อเป็นการจับจังหวะทำกำไรให้แก่ผู้ลงทุน กองทุนจึงตัดสินใจจ่ายเป็นเงินปันผลออกมาให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในสัดส่วนที่สูง เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสที่ตลาดจะเผชิญต่อความผันผวน หรือการปรับฐานลงทุนในระยะต่อไป