บลจ.ชี้เศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัวแกร่ง ซีไอเอ็มบีฯแนะชิงจังหวะลงทุนบอดน์ยิลด์ ล่าสุด เปิดขายกองทุนใหม่ ซีแพม ยูโร ไฮ ยิลด์ หวังรับอานิสงส์การกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ด้านกสิกร เปิดขายกองตราสสารหนี้ ระบุยุโรปฟื้น แต่เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ยังผันผวนตาม ศก.โลก
นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีมุมมองเศรษฐกิจภูมิภาคยุโรปในปัจจุบันว่า มีความสามารถฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งในช่วง 1-2 ปีนี้ และจะส่งผลให้ประเทศต่างๆ มีฐานะทางการเงิน และการคลังที่ดีขึ้น การเพิ่มการลงทุนและการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งเอื้อต่อผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ให้มีการปรับตัวดีขึ้น และส่งผลต่อการปรับอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit rating) ของภูมิภาคยุโรปไปด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนเครดิตประเทศ และบริษัทให้มีอันดับความน่าเชื่อถือดีขึ้นนั้น ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลบวกต่อราคาตราสารหนี้ให้มีการปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายถึงโอกาสที่จะทำกำไรจากราคาตราสารหนี้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดขายกองทุนกองทุนซีแพม ยูโร ไฮ ยิลด์มูลค่า 3,000 ล้านบาท ในวันที่ 8-12 กันยายนนี้ ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ลงทุนในตราสารหนี้ผลตอบแทนสูง ลงทุนในกองทุนหลัก UBS Euro High Yield Bond Fund ซึ่งบริหารจัดการโดย UBS Global Asset Management บริษัทจัดการลงทุนชั้นนำในยุโรป และเป็นผู้จัดการกองทุนที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 210,640 ล้านบาท ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
“หากเรามองการลงทุนนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยมากนักลงทุนเลือกการลงทุนในหุ้นโดยคาดหวังผลตอบแทนที่สูง แต่การลงทุนในหุ้นนั้นแน่นอนนักลงทุนต้องยอมรับในความผันผวนของราคา ในขณะที่นักลงทุนยังมีทางเลือกการลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดี แต่มีความเสี่ยงไม่สูงมากนัก ซึ่งเรามองเห็นโอกาสการลงทุนดังกล่าวคือ การลงทุนตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงของภูมิภาคยุโรป”
ด้านนายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของธนาคารกลางยุโรป (ECB)จากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินที่เข้มข้มขึ้น จะส่งผลดีจะช่วยประคองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมองว่าในปีนี้น่าจะขยายตัวได้ประมาณ 1%
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเศรษฐกิจในตลาดประเทศเกิดใหม่ที่มีความอ่อนไหวต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลก จึงแนะนำให้ผู้ลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยง และลดความผันผวนดังกล่าว โดยการจัดสรรเงินลงทุนบางส่วนกับกองทุนตราสารหนี้ ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ แต่ยังคงให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจด้วย
โดยล่าสุด เพื่อเป็นการตอบโจทย์ภาวะการลงทุนปัจจุบัน ในวันที่ 9-15 กันยายน 2557 บริษัทจะทำการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี เอ็กซ์ (KEFF1YX) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.00% ต่อปี กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอเค (KEFF6MAK) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.80% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีเอส (KFI3MES) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.30% ต่อปี นอกจากนี้ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมาก และต้องการลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก บลจ.กสิกรไทย ยังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน ดีดับบลิว (KPPTF3MDW) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.00% ต่อปี