จ่อปลดล็อกเงินสมทบนายจ้าง-ลูกจ้าง เล็งตั้งกองสำรองฯ เป็นการออมภาคบังคับ

สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเล็งปลดล็อกเงินสมทบนายจ้างและลูกจ้างเพื่อสร้างแรงจูงใจให้มีการตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพิ่มขึ้น พร้อมเสนอสภาปฏิรูปแห่งชาติพิจารณาให้กองทุนสำรองฯ เป็นการออมแบบภาคบังคับ ทางด้าน บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล นำร่องเปิดตัว “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสมดุลตามอายุ” ชูปรับพอร์ตการลงทุนตามช่วงอายุ ลดความเสี่ยงในอนาคต การเคหะแห่งชาติประเดิมเป็นลูกค้ารายแรก

นายพิสิฐ ลี้อาธรรม นายกสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เปิดเผยว่า สมาคมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาและเตรียมนำข้อเสนอให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) รวมถึงหน่วงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเปิดทางให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นการออมภาคบังคับ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและนำเสนอให้ สปช.ได้ภายในปีนี้ ทั้งนี้ การปลดล็อกการจ่ายเงินสมทบระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างนั้นก็เป็นข้อพิจารณาอีกประเด็นหนึ่งเพื่อเป็นแรงจูงใจให้นายจ้างและลูกจ้างเห็นความสำคัญของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยเฉพาะการเปิดช่องให้ลูกจ้างสามารถส่งเงินสมทบได้มากกว่านายจ้าง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีแรงงานในระบบทั้งสิ้น 37 ล้านคน แบ่งเป็นแรงงานที่มีประกันสังคม 10 ล้านคน โดยในส่วนนี้มีแรงงงานเพียง 2.7 ล้านคนเท่านั้นที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ส่วนอีก 7.3 ล้านคนนั้นไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยแรงงานส่วนดังกล่าวนั้นทางสมาคมฯ เองก็พยายามผลักดันให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเกิดขึ้น ส่วนแรงงานนอกระบบประกันสังคมอีก 27 ล้านคนนั้นทางสมาคมฯ ก็อยากผลักดันให้แรงงานเหล่านี้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยจะมีในลักษณะกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแบบภาคบังคับ

นายพิสิฐกล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ทางสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้มีการนำเสนอหลักการดังกล่าวเมื่อหลายปีที่ผ่านมา แต่รัฐบาลหลายชุดที่ผ่านมาไม่ได้ให้ความสนใจในประเด็นนี้ หลังจากนี้ไปคงต้องรอดูความคืบหน้าว่าหลักการดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง

** บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เปิดตัวนวัตกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ***

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด กล่าวว่า บลจ.ได้เปิดตัวกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสมดุลตามอายุ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว (Target Date Retirement Provident Fund) โดยกองทุนดังกล่าวสามารถตอบโจทย์ที่สำคัญเรื่องการออมเพื่อเกษียณอายุ การบริหารพอร์ตการลงทุนรูปแบบใหม่นี้เป็นการปรับความเหมาะสมระหว่างสินทรัพย์ลงทุนกับความเสี่ยงที่ปรับลดตามระดับช่วงอายุของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดี และเพื่อการมีเงินออมเพียงพอสำหรับการใช้ในยามเกษียณ

สำหรับข้อดีของการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแบบสมดุลตามอายุ หรือ Target Date Retirement Provident Fund นั้น สมาชิกสามารถเลือกแผนลงทุนได้อย่างสะดวก เข้าใจง่ายและไม่ยุ่งยาก โดยเลือกแผนเมื่อเริ่มลงทุนเพียงครั้งเดียวให้สอดคล้องกับช่วงเวลาและอายุที่จะเกษียณ หลังจากนั้นผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนตราสารลงทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการลดความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนตามอายุของสมาชิกที่เพิ่มขึ้น โดยฝ่ายบุคคลของบริษัทฯ หรือองค์กร ไม่ต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงหรือการตัดสินใจปรับสัดส่วนการลงทุนในระหว่างทาง หรือระยะเวลาที่ต้องแจ้งสมาชิกให้เปลี่ยนแผนการลงทุน ส่วนผู้จัดการกองทุนจะทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลพอร์ตลงทุนให้สมาชิก รวมถึงการกำหนดขอบเขตการลงทุนทั้งหมดแทนสมาชิกและกรรมการกองทุน

“เราจะเร่งสร้างและสะสมทุนทรัพย์ในช่วงต้น หาความสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยงในช่วงกลาง และรักษาเงินต้นในตอนปลาย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเงินทุนเป็นสำคัญ โดยการเปิดตัวนวัตกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพใหม่นี้ เราได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพการเคหะแห่งชาติ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ที่ได้มอบหมายให้ บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสมดุลตามอายุอีกด้วย” นายจุมพลกล่าว