เมืองไทยประกันชีวิตคาดแนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตปีนี้โตตามเป้า หลังตัวเลขไตรมาสแรกออกมาสุดหรู โชว์ผลงาน Q1 เบี้ยรับรวมโต 34% เบี้ยใหม่โต 46% มั่นใจทั้งปีเข้าเป้าเบี้ยรับรวมโต 15% ระบุแบบประกันสะสมทรัพย์มาแรง ส่วนประกันสินเชื่อวูบตามภาวะการปล่อยกู้ ล่าสุดเตรียมขยายฐานลูกค้าวัยรุ่น-คนทำงานเพิ่ม เปิดโครงการใหม่ “โครงการยิ้มสบาย เมืองไทยให้คืน”
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้ธุรกิจประกันชีวิตในปีนี้น่าจะเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ธุรกิจประกันชีวิตมีอัตราการเติบโตของเบี้ยรับรวม 23% และเบี้ยใหม่เติบโตขึ้น 32% ซึ่งจากตัวเลขที่ออกมาทำให้คาดการณ์ว่าแนวโน้มทั้งปีธุรกิจประกันชีวิตจะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของบริษัทเองในไตรมาสแรกของปีมีเบี้ยรับรวมเติบโตขึ้น 34% และมีเบี้ยใหม่เติบโตขึ้น 46%
“แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตยังดีอยู่ ถึงแม้จะมีสัญญาณการลดลงของการปล่อยสินเชื่อทำให้ประกันสินเชื่อประเภทมอร์ตเกจปรับตัวลดลงก็ตาม แต่ยังมีประกันแบบสะสมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาสินค้า และการตอบรับธุรกิจประกันชีวิตที่ดีขึ้นน่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจต่อจากนี้” นายสาระกล่าว
ทั้งนี้ จากแนวโน้มดังกล่าวบริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตด้านเบี้ยประกันรับรวมที่ไม่น้อยกว่า 15% โดยกำหนดแผนการดำเนินงานหลักๆ ไว้ 2 แนวทาง คือ การรองรับการขยายงานของตัวแทน ด้วยการยกระดับให้ศูนย์อบรมเดิมเป็นศูนย์อบรมแบบเบ็ดเสร็จ และครอบคลุมพื้นที่ในหลายๆ จังหวัด นอกจากนี้ บริษัทจะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันอีกด้วย
นายสาระ กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ล่าสุดบริษัทได้ทำการเปิดตัวโครงการใหม่ภายใต้ชื่อ “โครงการยิ้มสบาย เมืองไทยให้คืน” ด้วยความคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และโรคมะเร็ง ที่มาพร้อมกับผลประโยชน์ต่างๆ คือ รับผลประโยชน์รายวันกรณีเป็นผู้ป่วยในหรือบาดเจ็บนานสูงสุดถึง 365 วัน และหากไม่เคลมครบทุก 3 ปี รับเบี้ยประกันปีที่ 3 คืน โดยมีเบี้ยประกันเริ่มต้นเพียงวันละ 6 บาทเท่านั้น
นอกจากนี้บริษัทยังได้ทำการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ “ชาคริต แย้มนาม” ดาราและพิธีกรชื่อดัง เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ดีทั้งด้านการงานและครอบครัว เพื่อเตรียมความพร้อมและการวางแผนชีวิตภายใต้แนวความคิด “รู้ใจ” ผ่านโฆษณา “โครงการยิ้มสบาย เมืองไทยให้คืน” ซึ่งจะทำการออกอากาศผ่านทางฟรีทีวีและทีวีดิจิตอลในช่วงต้นเดือนหน้าเป็นต้นไป
“เราให้ความสำคัญต่อกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน ซึ่งโครงการนี้น่าจะตอบโจทย์ของคนกลุ่มนี้ได้ เพราะเรารับประกันตั้งแต่อายุ 20-55 ปี ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่มีพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อแบบประกันที่แตกต่างออกไปจากกลุ่มผู้สูงวัย นอกจากนี้จะเป็นการขยายฐานลูกค้าที่ดีเพราะกลุ่มคนวัยทำงานยังมีช่องว่างทางการตลาด และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้ออยู่มาก”
