มอร์นิ่งสตาร์รีเสิร์ชเผยยอดคงค้างกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ปี 56 ต่อเนื่องมาปี 57 กว่า 56 กองทุน พบยิลด์กองทุนยังไม่เข้าเป้าหมาย บางกองต้องเปลี่ยนนโยบายกองทุนเป็นกองทุนเปิด ขณะที่บางกองทุนต้องปิดลง แนะจับตาดูไตรมาส 2 มีกองทุนทริกเกอร์ครบกำหนดกว่า 15 กองทุน คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์อยู่ที่ 7,700 ล้านบาท
นายพีร์ ยงวณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ หรือทาร์เกตฟันด์ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 นั้นกระแสการออกกองทุนไม่แรงเหมือนในปี 2556 ที่ผ่านมา เนื่องจากบรรยกาศการลงทุนไม่เอื้ออำนวย และอีกส่วนหนึ่งมาจากการที่นักลงทุนยังมีเงินลงทุนติดค้างอยู่ในกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่เปิดขายไปเมื่อปีก่อน และยังไม่สามารถทำผลตอบแทนได้ถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้
สำหรับการเปิดขายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ในปีนี้พบว่ามีกองทุนดังกล่าวเปิดขายประมาณ 21 กองทุน คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพียง 6,500 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 17% ของทรัพย์สินสุทธิทั้งหมดเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยแบ่งเป็นกองทุนทริกเกอร์ที่ไปลงทุนต่างประเทศ 13 กองทุน และกองทุนทริกเกอร์ที่ลงทุนในหุ้นไทยประมาณ 8 กองทุน
“ผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุนทริกเกอร์ฟันด์จากเดิมที่เคยตั้งไว้อยู่ที่ 8-12% ปัจจุบันผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุนประเภทดังกล่าวจะอยู่ที่ 5-10%” นายพีร์กล่าว
ทางด้านนายกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์ข้อมูล บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปริมาณการออกขายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ในปี 2556 อยู่ที่ 90 กองทุน โดยมีจำนวนกองทุนที่ทำผลตอบแทนถึงเป้าหมายประมาณ 34 กองทุน โดยมีกองทุนที่ยังคงค้างและผลตอบแทนยังไม่ถึงเป้าหมายอีก 56 กองทุน คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 28,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังพบว่ากองทุนทริกเกอร์ฟันด์บางกองนั้นมีผลตอบแทนถึง -12%
ทั้งนี้ ไตรมาสที่ 1 ของปี 2557 พบว่ามีกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ปิดไป 6 กองทุน และอีก 10 กองทุนนั้นเปลี่ยนเป็นกองทุนเปิดไม่กำหนดระยะเวลาเพื่อให้กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ สำหรับในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จะมีกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่มีกำหนดครบอายุอีก 15 กองทุน คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์อยู่ที่ 7,700 ล้านบาท
นายพีร์ ยงวณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ หรือทาร์เกตฟันด์ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 นั้นกระแสการออกกองทุนไม่แรงเหมือนในปี 2556 ที่ผ่านมา เนื่องจากบรรยกาศการลงทุนไม่เอื้ออำนวย และอีกส่วนหนึ่งมาจากการที่นักลงทุนยังมีเงินลงทุนติดค้างอยู่ในกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่เปิดขายไปเมื่อปีก่อน และยังไม่สามารถทำผลตอบแทนได้ถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้
สำหรับการเปิดขายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ในปีนี้พบว่ามีกองทุนดังกล่าวเปิดขายประมาณ 21 กองทุน คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพียง 6,500 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 17% ของทรัพย์สินสุทธิทั้งหมดเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยแบ่งเป็นกองทุนทริกเกอร์ที่ไปลงทุนต่างประเทศ 13 กองทุน และกองทุนทริกเกอร์ที่ลงทุนในหุ้นไทยประมาณ 8 กองทุน
“ผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุนทริกเกอร์ฟันด์จากเดิมที่เคยตั้งไว้อยู่ที่ 8-12% ปัจจุบันผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุนประเภทดังกล่าวจะอยู่ที่ 5-10%” นายพีร์กล่าว
ทางด้านนายกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์ข้อมูล บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปริมาณการออกขายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ในปี 2556 อยู่ที่ 90 กองทุน โดยมีจำนวนกองทุนที่ทำผลตอบแทนถึงเป้าหมายประมาณ 34 กองทุน โดยมีกองทุนที่ยังคงค้างและผลตอบแทนยังไม่ถึงเป้าหมายอีก 56 กองทุน คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 28,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังพบว่ากองทุนทริกเกอร์ฟันด์บางกองนั้นมีผลตอบแทนถึง -12%
ทั้งนี้ ไตรมาสที่ 1 ของปี 2557 พบว่ามีกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ปิดไป 6 กองทุน และอีก 10 กองทุนนั้นเปลี่ยนเป็นกองทุนเปิดไม่กำหนดระยะเวลาเพื่อให้กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ สำหรับในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จะมีกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่มีกำหนดครบอายุอีก 15 กองทุน คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์อยู่ที่ 7,700 ล้านบาท