บลจ.ทหารไทยเพิ่มทุนกองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาล รอบที่ 3 หลังนักลงทุนให้ความสนใจมากขึ้น เหตุผลตอบแทนกองทุนโดนใจ
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า กองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาล นับเป็นหนึ่งในกองทุนตราสารหนี้ที่กำลังอยู่ในความสนใจของนักลงทุนเนื่องจากอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินเฟ้อและเงินฝากประจำ ถือเป็นทางเลือกชั้นดียามที่เศรษฐกิจผันผวนและการเมืองยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลให้ต้องมีการขอเพิ่มทุนจดทะเบียนถึง 2 ครั้ง ยอดรวมการขอเพิ่มทุนถึงห้าพันล้านบาทในช่วงเวลาประมาณเดือนเดียว
ทั้งนี้ กองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาลเพิ่งดำเนินการขอจดทะเบียนเพิ่มทุนไป 2,000 ล้านบาทในวันที่ 7 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา แต่ด้วยกระแสเงินลงทุนที่ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน ทำให้ ณ วันที่ 8 เมษายน 2557 กองทุนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิเท่ากับ 6,075 ล้านบาท บริษัทฯ จึงต้องขอจดทะเบียนเพิ่มทุนอีก 3,000 ล้านบาท (ทำให้ทุนจดทะเบียนรวมเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 ล้านบาท) และได้ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อย
นายสมจินต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เชื่อว่าสาเหตุที่กองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาลได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบันที่ผู้ลงทุนต้องการลดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการให้เงินที่ถือครองด้อยค่าลงจากการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ ต้องการความยืดหยุ่นในการลงทุน และไม่ต้องการถูกล็อกเงินลงทุนไว้แบบกองทุนที่กำหนดระยะเวลาลงทุนแน่นอน (Term Fund) การที่กองทุนนี้เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนชั้นดีทั้งในและต่างประเทศ
โดยที่ผ่านมาสามารถบริหารจัดการให้อายุเฉลี่ยของพอร์ตการลงทุนรวม (Portfolio Duration) เฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 1-2 ปี ไม่สั้นขนาดกองทุนตลาดเงิน และไม่ยาวเกินไปจนทำให้อัตราผลตอบแทนมีความผันผวนสูงหรือมีความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย เช่น การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของภาครัฐ เป็นต้น และมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของเงินต้นและดอกเบี้ยเต็มจำนวนในส่วนที่มีการลงทุนต่างประเทศ ประกอบกับการที่กองทุนได้รับการจัดอันดับในระดับสูงสุด 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ซึ่งตอกย้ำถึงการสร้างผลตอบแทนที่สูงและความผันผวนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเปรียบเที่ยบกับกองทุนลักษณะเดียวกันในอุตสาหกรรม ทำให้ผู้ลงทุนเกิดความมั่นใจและให้การตอบรับเป็นอย่างดี
โดยข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นมีนาคมที่ผ่านมา ผลตอบแทน 3 เดือนย้อนหลังของกองทุนอยู่ที่ 3.78% ต่อปี และอัตราผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 3.32% ต่อปี คาดว่าทิศทางของอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังไม่มีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นในอนาคตอันใกล้ ซึ่งคงส่งผลดีต่อพอร์ตการลงทุนของกองทุน
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า กองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาล นับเป็นหนึ่งในกองทุนตราสารหนี้ที่กำลังอยู่ในความสนใจของนักลงทุนเนื่องจากอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินเฟ้อและเงินฝากประจำ ถือเป็นทางเลือกชั้นดียามที่เศรษฐกิจผันผวนและการเมืองยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลให้ต้องมีการขอเพิ่มทุนจดทะเบียนถึง 2 ครั้ง ยอดรวมการขอเพิ่มทุนถึงห้าพันล้านบาทในช่วงเวลาประมาณเดือนเดียว
ทั้งนี้ กองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาลเพิ่งดำเนินการขอจดทะเบียนเพิ่มทุนไป 2,000 ล้านบาทในวันที่ 7 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา แต่ด้วยกระแสเงินลงทุนที่ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน ทำให้ ณ วันที่ 8 เมษายน 2557 กองทุนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิเท่ากับ 6,075 ล้านบาท บริษัทฯ จึงต้องขอจดทะเบียนเพิ่มทุนอีก 3,000 ล้านบาท (ทำให้ทุนจดทะเบียนรวมเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 ล้านบาท) และได้ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อย
นายสมจินต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เชื่อว่าสาเหตุที่กองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาลได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบันที่ผู้ลงทุนต้องการลดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการให้เงินที่ถือครองด้อยค่าลงจากการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ ต้องการความยืดหยุ่นในการลงทุน และไม่ต้องการถูกล็อกเงินลงทุนไว้แบบกองทุนที่กำหนดระยะเวลาลงทุนแน่นอน (Term Fund) การที่กองทุนนี้เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนชั้นดีทั้งในและต่างประเทศ
โดยที่ผ่านมาสามารถบริหารจัดการให้อายุเฉลี่ยของพอร์ตการลงทุนรวม (Portfolio Duration) เฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 1-2 ปี ไม่สั้นขนาดกองทุนตลาดเงิน และไม่ยาวเกินไปจนทำให้อัตราผลตอบแทนมีความผันผวนสูงหรือมีความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย เช่น การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของภาครัฐ เป็นต้น และมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของเงินต้นและดอกเบี้ยเต็มจำนวนในส่วนที่มีการลงทุนต่างประเทศ ประกอบกับการที่กองทุนได้รับการจัดอันดับในระดับสูงสุด 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ซึ่งตอกย้ำถึงการสร้างผลตอบแทนที่สูงและความผันผวนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเปรียบเที่ยบกับกองทุนลักษณะเดียวกันในอุตสาหกรรม ทำให้ผู้ลงทุนเกิดความมั่นใจและให้การตอบรับเป็นอย่างดี
โดยข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นมีนาคมที่ผ่านมา ผลตอบแทน 3 เดือนย้อนหลังของกองทุนอยู่ที่ 3.78% ต่อปี และอัตราผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 3.32% ต่อปี คาดว่าทิศทางของอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังไม่มีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นในอนาคตอันใกล้ ซึ่งคงส่งผลดีต่อพอร์ตการลงทุนของกองทุน