xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยปันผลส่งท้ายปี จ่าย 6 กองทุนกว่า 300 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กสิกรไทยจัดปันผล 6 กองทุนส่งท้ายปี 57 รวมกว่า 300 ล้านบาท ประเดิมจ่าย 3 กองทุนอสังหาฯ พร้อมกัน 11 ธันวาคมนี้ ขณะที่กองทุนอีทีเอฟ และกองทุนต่างประเทศจ่ายวันที่ 13 ธันวาคมนี้ พบข้อมูลทุกกองทุนมีการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง

นายประเสริฐ ขนบธรรมชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด  กล่าวว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมของบริษัท 6 กองทุน มูลค่ารวม 330.82 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นกองในกลุ่มอีทีเอฟ 1 กองทุน กองทุนรวมต่างประเทศ 2 กองทุน และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ 3 กองทุน

สำหรับกองทุนอีทีเอฟ ได้แก่ กองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) จะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2555-30 พฤศจิกายน 2556 โดยจ่ายเงินปันผลในอัตรา 8 บาทต่อหน่วย มูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 39.24 ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าวมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 13 ธันวาคม 2556

ส่วนกองทุนรวมต่างประเทศอีก 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน (K-CHINA) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2556-30 พฤศจิกายน 2556 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดเค โกลบอล แอลโลเคชั่น (K-GA) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2556-30 พฤศจิกายน 2556 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย มูลค่าการจ่ายเงินปันผลของทั้ง 2 กองทุนรวมเป็นเงิน 90.84 ล้านบาท โดยทั้ง 2 กองทุนมีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 13 ธันวาคม 2556 เช่นเดียวกัน
    
ขณะที่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่จะทำการปันผล 3 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) ซึ่งจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 สิงหาคม-31 ตุลาคม 2556 โดยจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1820 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 95.59 ล้านบาท มีกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวในวันที่ 6 ธันวาคม 2556  ด้านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น (KPNPF) จะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน 2556 ในอัตรา 0.1625 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 29.25 ล้านบาท และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ไลฟ์สไตล์ (MJLF) จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในช่วงเดียวกัน ในอัตรา 0.2300 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 75.90 ล้านบาท โดยทั้ง 2 กองทุนมีกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวพร้อมกันในวันที่ 11 ธันวาคม 2556  
    
นายประเสริฐกล่าวอีกว่า กองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นภายใต้โครงการกองทุนพันธบัตรเอเชียระยะที่ 2 ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของธนาคารกลางชาติต่างๆ ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจำนวน 11 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย เพื่อให้เกิดการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของนักลงทุน ตลอดทั้งผู้ออกตราสารในตลาดตราสารหนี้ของประเทศสมาชิก และนับเป็นกองทุน ETF กองทุนแรกของไทยที่มีการลงทุนโดยอ้างอิงกับดัชนีตราสารหนี้ภาครัฐ  ทั้งนี้นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่  23 กุมภาพันธ์ 2549 กองทุนจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 16 ครั้ง  ในอัตรารวมทั้งสิ้น 315.36 บาทต่อหน่วย
    
ส่วนกองทุนรวมต่างประเทศ   K-GA มีจุดเด่นที่พอร์ตการลงทุนแบบผสม กระจายการลงทุนไปในหุ้นและตราสารหนี้ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกกว่า 700 หลักทรัพย์ ขณะที่ความผันผวนโดยรวมต่ำกว่าการลงทุนในหุ้น ทั้งนี้ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมากองทุนมีความผันผวนเฉลี่ย 6% ขณะที่หุ้นไทยผันผวนประมาณ 18% และหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนประมาณ 8%  โดยนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2554 กองทุนมีการจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 5 ครั้ง ในอัตรารวม 3.20 บาทต่อหน่วย
    
ด้านกองทุน K-CHINA จะเน้นลงทุนในตราสารทุนโดยผ่านกองทุน Fidelity Funds-China Focus Fund โดยตั้งแต่ต้นปีกองทุนมีผลการดำเนินงานเป็นบวกกว่า 14.8% เอาชนะทั้งตลาดหุ้นจีน A-share ที่ระดับ -3.3% และ H-share ที่ระดับ 0.04% ในขณะที่ตลาดหุ้น Hang Seng ปรับตัวเป็นบวกเพียง 5.4%  ประกอบกับปัจจัยด้านเศรษฐกิจจีนก็ส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาตัวเลข GDP ของจีนเติบโต 7.8%  ซึ่งเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบปีและสูงกว่าที่ทางการจีนตั้งเป้าไว้
    
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) ปัจจุบันมีการลงทุนในอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงานรวมแล้ว 9 โครงการ ซึ่งทุกโครงการยังคงมีผู้เช่าเต็มพื้นที่ ทั้งนี้นับตั้งแต่จัดตั้งโครงการในปี 2553 เป็นต้นมากองทุนมีรายได้อย่างสม่ำเสมอจากค่าเช่าอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงาน และมีการประกาศจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 11 ครั้ง  อัตราการจ่ายปันผลรวมทั้งสิ้น 2.0692 บาทต่อหน่วย  โดยมีอัตราการจ่ายปันผลในรอบปีบัญชีที่ผ่านมาประมาณ 7.20 % ต่อปี  มูลค่าเงินปันผลรวมแล้วทั้งสิ้นประมาณ 651 ล้านบาท
    
ด้านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น (KPNPF) ลงทุนในกรรมสิทธิ์สมบูรณ์ (Freehold) ในที่ดินและอาคารเคพีเอ็นทาวเวอร์ บน ถ.พระราม 9 โดยนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2556 กองทุนจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 2 ครั้ง คิดเป็นอัตรารวม 0.2805 บาทต่อหน่วย  
    
ส่วนกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ไลฟ์สไตล์ (MJLF) ลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารไลฟ์สไตล์ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 2 โครงการ คือ โครงการเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน และเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2550 กองทุนจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 25 ครั้ง คิดเป็นอัตรารวม 5.868 บาทต่อหน่วย  โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีผลการดำเนินงานถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ


กำลังโหลดความคิดเห็น