xs
xsm
sm
md
lg

“แม็กซ์-ธีระชาติ” นักปั้น App เด็ด เจ้าของธุรกิจสู่นักลงทุน VI

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชื่อว่าหลายคนอยากเริ่มลงทุนแทนการฝากเงิน เนื่องจากการลงทุนไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ นั้นให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงิน แม้จะมีความเสี่ยงจากการลงทุนบ้างแต่หลายคนก็รับได้ ซึ่งการลงทุนด้วยตัวเอง หรือการลงทุนโดยผ่านกองทุนรวม นั้นก็เป็นเรื่องที่ดี แต่อย่างไรเสียก็อย่าลืมกระจายการลงทุนให้เหมาะสมกับสไตล์และความเสี่ยงของตนเองด้วย
    
สำหรับแขกรับเชิญในคอลัมน์เจาะพอร์ตคนดังในฉบับนี้คือ “แม็กซ์” ธีระชาติ ก่อตระกูล หลายคนอาจจะไม่คุ้นหู แต่หากพูดถึงแอปพลิเคชัน เช่น a day, Taxi Reporter, Dome online, maybank Kim Eng และล่าสุด Stock Radars  ก็คงจะร้องอ๋อกันเลยทีเดียว นอกเหนือจากบทบาทการเป็นผู้บริหารบริษัทสยามสแควร์ เทคโนโลยี จำกัด แล้ว เขายังเป็นเจ้าของหนังสือ “Max's Book” แอปฯ สู่ฝันพันล้าน ด้วย
    
แม็กซ์เล่าให้ฟังว่า ผมเริ่มต้นเข้าสู่ตลาดหุ้นปี 2009 ซึ่งในกลุ่มเพื่อนของผมนั้นส่วนใหญ่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ในวงสนทนานอกเหนือจากเรื่องส่วนตัวเรื่องทั่วๆไปแล้วก็จะมีการพูดคุยเรื่องการลงทุน และตลาดหุ้น ซึ่งในความเป็นจริงครอบครัวของผมสั่งห้ามเล่นหุ้นเด็ดขาดเนื่องจากผู้ใหญ่เขากังวลว่าจะขาดทุน ประกอบกับตอนนั้นมีข่าวว่าคนฮ่องกงกระโดดตึกฆ่าตัวตายเพราะเจ๊งหุ้น เขาเลยมองว่าการลงทุนในลักษณะนี้เงินหายและเจ๊งในที่สุด แต่จริงๆ แล้วผมมองว่าคนที่เป็นลักษณะแบบนั้นคือคนโลภ ซึ่งผมก็ยอมรับนะว่าแต่ก่อนก็เป็นคนโลภ แต่พอเราไม่ได้ลงทุนแบบคนโลภเราก็ชนะตลาดตลอด ผมว่ามันอยู่ที่เราศึกษาการลงทุนมากแค่ไหน หลังจากนั้นผมก็เริ่มต้นเข้ามาลงทุน โดยศึกษาหาข้อมูลอย่างจริงจัง และสนุกกับการลงทุนมากขึ้น
    
ถ้าให้นิยามว่าตัวเองเป็นนักลงทุนประเภทไหน แม็กซ์ตอบทันทีว่า ผมเป็นนักลงทุน VI หรือ Value Investor แต่ก็มีบ้างที่เห็นตลาดครึกครื้นก็เล่นเอาเสียจริตไปเล็กน้อย คือพยายามมองพื้นฐานของบริษัท โมเดลเป็นอย่างไร ว้าวอย่างไร ก็อยากเป็น VI บางทีเห็นตลาดคึกมากๆ ก็มีบ้างที่หลุดๆ ไป แต่ผมเชื่อว่าเพื่อนคนหนึ่งเขาเคยบอกว่า ถ้าจะลงทุนนั้นต้องเป็นเงินเย็น ถามว่าเย็นระดับไหน ต้องบอกว่าเย็นมากๆ ซึ่งการที่เราใช้เงินเย็นเป็นการลงทุนนั้นก็เพื่อช่วยลดความเสี่ยง ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็เคยนะเอาเงินที่หมุนในบริษัทไปลงทุน ซึ่งแน่นนอนว่าจังหวะการลงทุนมันก็ไม่ตามเราอยู่แล้วและความผันผวนก็ค่อนข้างสูง
    
สไตล์การเก็บออมของแม็กซ์นั้น เขาจะแบ่งเงินออกเป็น 30% อยู่ในส่วนการลงทุนที่ปลอดภัย  20% เอาไปลงทุนในหุ้น ส่วนอีก 50% ก็เอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวไม่ได้ตายตัวมากนัก อาจจะมีปรับบางส่วนไปเพิ่มการลงทุนในหุ้น หรือลงทุนในบริษัทเพิ่มนั่นเอง
    
สำหรับการผันตัวเองเข้าสู่วงการธุรกิจไอทีผลิตแอปพลิเคชันนั้น แม็กซ์เล่าว่า ผมจบเคมี พอทำงานบริษัทเคมีแล้วมีโอกาสได้ไปทำไอทีก็เลยชอบ ซึ่งก็ไม่รู้หลอกว่าตัวเองชอบไอทีมาตั้งแต่เด็กๆ รู้สึกสนุกกับงานไอทีก็เลยกลับไปเรียนปริญญาโทด้านไอทีต่อ หลังจากนั้นก็หันไปทำบริษัทที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งส่วนตัวผมชอบพวกโปรดักต์จากแอปเปิล ซึ่งหลังจากเขาเปิดตัวไอโฟน ผมคิดว่ามันน่าสนใจดี แต่ ณ เวลานั้นยังไม่มี App store พอมี App store เราก็อยากได้ App ทั่วไปเต็มไปหมด ก็อยากทำ App บ้างก็เลยจัดหาทีมมาทำ หาดีไซน์เนอร์ และผู้พัฒนา App เข้ามา และเซตทีมขึ้นมาทำ
    
ส่วนการเขียนแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนนั้น เริ่มจากผมมองว่าการลงทุนกับแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือนั้นยังไม่มี ก็เลยเห็นช่องว่างตรงนี้ ซึ่ง App ที่ทีมงานเราเขียนขึ้น ได้แก่ MayBank Kim Eng และผมก็ทำ App ที่เกี่ยวกับการลงทุนโดยไม่ได้อิงกับโบรกเกอร์ไหน นั่นก็คือ “Stock Radars” ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับจากคนที่ชอบการลงทุนเป็นจำนวนมาก

    “ผมมองว่าการลงทุนในหุ้นนั้นควรเป็นพื้นฐานอย่างหนึ่งที่คนคนหนึ่งควรจะเรียนรู้ไว้ ประเทศไทยเทรนด์การลงทุนเริ่มจะมีมากขึ้นแต่ก็ยังถือว่าน้อย ซึ่งประเทศที่พัฒนาแล้วก็เลือกที่จะลงทุนมากกว่าการฝากเงิน” แม็กซ์ทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น