xs
xsm
sm
md
lg

ยอดกรมธรรม์ภัยพิบัติพุ่ง คนแห่ซื้อแล้วกว่า1.6ล้านฉบับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติโชว์ผลงานจำหน่ายกรมธรรม์ภัยพิบัติทะลุ1.6 ล้านฉบับยอดกรมธรรม์ที่ยังมีความคุ้มครองอยู่ 1.4 ล้านฉบับ เผยความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรง เช่น ภัยจากน้ำท่วม แผ่นดินไหว และลมพายุ

นายพยุงศักด์ ชาติสุทธิผล ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ เปิดเผยว่า ประเทศไทยยังต้องเผชิญความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงยิ่งดังนั้นการปิดความเสี่ยงภัยพิบัติด้วยการซื้อประกันก่อนภัยมาจึงถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ ในปัจจุบันประชาชนและภาคธุรกิจให้ความสำคัญต่อการปิดความเสี่ยงภัยพิบัติด้วยการซื้อประกันความเสี่ยงภัยพิบัติสูงขึ้น โดยข้อมูลตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนฯ วันที่ 28 มีนาคม 2555 ถึง 7 สิงหาคม 2556 มีจำนวนกรมธรรม์ภัยพิบัติทั้งสิ้น 1,592,240 ฉบับ ซึ่งเป็นกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติที่ยังมีความคุ้มครองอยู่จำนวน 1,404,267 ฉบับ ทุนประกันภัยพิบัติที่ยังมีความคุ้มครองอยู่ 91,712 ล้านบาท และทุนประกันภัยต่อตามสัดส่วนของกองทุนฯ ที่ยังคุ้มครองอยู่จำนวน 52,629 ล้านบาท โดยขณะนี้ยังไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน

กลุ่มบ้านอยู่อาศัยมีจำนวนกรมธรรม์สูงสุดจำนวน 1,330,323 ฉบับ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 94 ของจำนวนกรมธรรม์ที่ยังมีความคุ้มครองอยู่ทั้งหมด รองลงมาคือกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและย่อมจำนวน 69,236 ฉบับสัดส่วนร้อยละ 5 และกลุ่มอุตสาหกรรมมีกรมธรรม์จำนวนทั้งสิ้น 4,708 ฉบับหรือร้อยละ 1

นอกจากนี้กลุ่มบ้านอยู่อาศัยยังมีจำนวนทุนประกันภัยต่อตามสัดส่วนของกองทุนฯ สูงสุดจำนวน 32,767 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 62 ของทุนประกันภัยตามสัดส่วนของกองทุนฯ ทั้งหมด ถัดมาคือกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมจำนวน 11,612 ล้านบาทหรือสัดส่วนร้อยละ 22 และกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและย่อมจำนวน 8,250 ล้านบาทหรือสัดส่วนร้อยละ 16 ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมมีจำนวนเบี้ยประกันภัยพิบัติสูงสุดที่ 216 ล้านบาทหรือสัดส่วนร้อยละ 40 ของเบี้ยประกันภัยต่อตามสัดส่วนของกองทุนฯ รองลงมาคือกลุ่มบ้านอยู่อาศัยจำนวน 215 ล้านบาท ในสัดส่วนร้อยละ 40 และท้ายสุดคือกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและย่อมจำนวน 104 ล้านบาทหรือสัดส่วนร้อยละ 20 ของเบี้ยประกันภัยตามสัดส่วนของกองทุนฯ ทั้งหมด

ขณะที่พบว่าจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามการประมาณการของกองทุนฯ 5 จังหวัดได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐมนนทบุรี และกรุงเทพฯซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมและมีการสร้างระบบป้องกันภัยพิบัติโดยเฉพาะน้ำท่วมไว้อย่างดีแล้วแต่ยังคงให้ความสำคัญต่อการทำประกันภัยพิบัติ โดยมีทุนประกันภัยตามสัดส่วนของกองทุนฯ รวมทั้งสิ้น 25,357 ล้านบาท แยกเป็นกลุ่มบ้านอยู่อาศัยจำนวน 16,179 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและย่อม 3,314 ล้านบาท และกลุ่มอุตสาหกรรม 5,864 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น