กทม.ตั้ง 3 หน่วยงานดูแลภัยพิบัติพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชน
วันนี้ (26 ก.ค) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่าในการจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานสำหรับการบริหารจัดการภัยพิบัติในการต่างๆ รวมถึงเป็นเวทีเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและประสบการณ์ระหว่างผู้เชี่ยวชาญของศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย (ADPC) รวมถึงนำความรู้ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนในเวทีไปประกอบการพัฒนาสำหรับการบริหารจัดการภัยพิบัติในการรักษาพระนคร
อย่างไรก็ตาม ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงและเป็นวงกว้าง ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ประชาชนอย่างมาก จึงจัดตั้งองค์กรขึ้นมา 3 องค์กร ได้แก่ กลุ่มประเมินความเสี่ยง การจัดทำแผน และ การประสานงานและความร่วมมืออย่างเป็นเอกภาพ โดยการจัดตั้งกลุ่มดังกล่าวถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับภัยพิบัติทุกรูปแบบได้อย่างทันที ทั้งในช่วงก่อนเกิดภัยพิบัติ ขณะเกิดภัยพิบัติ และหลังจากที่ผ่านพ้นไปแล้ว เพื่อที่จะได้มีการทำงานอย่างเป็นประสิทธิภาพ
ดร.พิจิตต รัตตกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นโครงการที่ร่วมมือกับ กทม.เพื่อป้องกันภัยพิบัติที่กรุงเทพฯต้องเผชิญ อาทิ อุทกภัย วาตภัย ภัยแล้ง แผ่นดินไหว พายุลมแรง และภัยจากการกระทำของมนุษย์ จึงมีการประสานความร่วมมือจาก 3 กลุ่มดังกล่าว เพื่อป้องกันพระนครจากภัยพิบัติให้เกิดประสิทธิภาพทุกระบบ ทั้งระบบเตือนภัย ระบบประเมินความเสี่ยง ระบบการปฏิบัติการ รวมถึงระบบสั่งการและการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและความร่วมมือจากประชาชน เพื่อเป็นการสร้างความอุ่นใจ และความปลอดภัยให้แก่ประชาชน
วันนี้ (26 ก.ค) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่าในการจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานสำหรับการบริหารจัดการภัยพิบัติในการต่างๆ รวมถึงเป็นเวทีเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและประสบการณ์ระหว่างผู้เชี่ยวชาญของศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย (ADPC) รวมถึงนำความรู้ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนในเวทีไปประกอบการพัฒนาสำหรับการบริหารจัดการภัยพิบัติในการรักษาพระนคร
อย่างไรก็ตาม ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงและเป็นวงกว้าง ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ประชาชนอย่างมาก จึงจัดตั้งองค์กรขึ้นมา 3 องค์กร ได้แก่ กลุ่มประเมินความเสี่ยง การจัดทำแผน และ การประสานงานและความร่วมมืออย่างเป็นเอกภาพ โดยการจัดตั้งกลุ่มดังกล่าวถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับภัยพิบัติทุกรูปแบบได้อย่างทันที ทั้งในช่วงก่อนเกิดภัยพิบัติ ขณะเกิดภัยพิบัติ และหลังจากที่ผ่านพ้นไปแล้ว เพื่อที่จะได้มีการทำงานอย่างเป็นประสิทธิภาพ
ดร.พิจิตต รัตตกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นโครงการที่ร่วมมือกับ กทม.เพื่อป้องกันภัยพิบัติที่กรุงเทพฯต้องเผชิญ อาทิ อุทกภัย วาตภัย ภัยแล้ง แผ่นดินไหว พายุลมแรง และภัยจากการกระทำของมนุษย์ จึงมีการประสานความร่วมมือจาก 3 กลุ่มดังกล่าว เพื่อป้องกันพระนครจากภัยพิบัติให้เกิดประสิทธิภาพทุกระบบ ทั้งระบบเตือนภัย ระบบประเมินความเสี่ยง ระบบการปฏิบัติการ รวมถึงระบบสั่งการและการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและความร่วมมือจากประชาชน เพื่อเป็นการสร้างความอุ่นใจ และความปลอดภัยให้แก่ประชาชน
