สรุปข่าวเด่นกองทุนดังในรอบสัปดาห์นี้มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการลงทุน ในช่วงที่ตลาดดหุ้นปรับตัวลงเช่นนี้ มุมจากผู้
จัดการกองทุนจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
เริ่มกันที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด ได้ออกกองทุนใหม่ที่ชื่อว่า “กองทุนเปิด กรุงศรีมิกซ์ 80-20 (KFMIX80-20)” เป็นกองทุนประเภทผสมที่มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ 80% และหุ้น 20% เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนในระยะสั้นและความเสี่ยงได้ในระดับสูงเพื่อรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว กองทุนมีการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าปีละ 2 ครั้ง เปิดขาย IPO 3-10 กันยายน 2556
ซึ่งก็ได้แนะนำผู้ลงทุนในช่วงนี้ว่าการลงทุนในระยะยาวและการจัดสรรลงทุนจะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ โดยตลาดหุ้นในช่วงนี้ที่ปรับตัวลงมาก็ถือว่าราคาหุ้นไทยค่อนข้างถูก สามารถทยอยซื้อสะสมกันได้ ในช่วงครึ่งปีหลังก็มีปัจจัยบวกจากตลาดสหรัฐฯ และยุโรปเข้ามา แต่เศรษฐกิจไทยก็มีการโตที่ชะลอลง
บลจ.ทิสโก้ จำกัด ก็มองจังหวะในช่วงที่หุ้นปรับตัวลงมานี้ออก“กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #14” เป็นกองทาร์เกตฟันด์ลงทุนในหุ้นไทย ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 8% เปิดขาย 3 ก.ย.นี้ เพราะมองว่าตลาดหุ้นไทยปรับฐานเพียงระยะสั้นเท่านั้น ยังมีปัจจัยบวกทั้งในและนอกประเทศมาทำให้หุ้นไทยปรับขึ้นมาได้
บลจ.กสิกรไทย จำกัด ก็เป็นปลื้มหลังจากเปิดขาย กองทุน K-EUROPE ไปเมื่อวันที่ 16-23 สิงหาคมที่ผ่านมาก็มีผู้ลงทุนให้ความสนใจซื้อในช่วง IPO ไปกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดขายอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2556 เป็นต้นไป โดยมองว่าผู้ลงทุนยังให้ความเชื่อมั่นกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป เพราะในช่วงที่ผ่านมายุโรปมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากตัวเลขรวม GDP ของประเทศกลุ่มยูโรโซนในไตรมาส 2 ที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.3%
ขณะที่ บลจ.ยูโอบี จำกัด ก็มองการลงทุในช่วงนี้ว่า การลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยงสูง แต่เป็นการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว แม้มีความกังวลเรื่องเงินลงทุนที่ย้ายออกจากประเทศตลาดเกิดใหม่กลับเข้าลงทุนในประเทศที่พัฒนาแล้ว ดังนั้น ในระยะต่อไปจะส่งผลดีโดยรวมต่อสมดุลของตลาดหุ้นทั่วโลก โดยที่ตลาดเอเชีย แม้ในระยะสั้นยังคงมีความผันผวนอยู่ แต่จากปัจจัยพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่ง รวมทั้งนโยบายโครงสร้างพื้นฐานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต น่าจะเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้หุ้นภูมิภาคเอเชียยังคงมีความน่าสนใจ
ด้านแวดวงประกัน กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เปิดเผยว่า ตลาดประกันชีวิตในประเทศยังเติบโตได้ดี เนื่องจากมีจำนวนผู้ถือ
ครองกรมธรรม์แค่ 20-25% ของประชากรเท่านั้น ซึ่ง 6 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 37% อยู่ที่ 1.76 หมื่นล้านบาท ยังเติบโตได้ดีแม้เศรษฐกิจไทยชะลอตัว
ING ประกันชีวิต ก็ได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น “เอฟดับบลิวดีประกันชีวิต” หลังจากกลุ่มแปซิฟิค เซ็นจูรี่ หรือ PCG ได้เข้ามาซื้อหุ้นไอเอ็นจี ประกันชีวิต แต่บริษัทจะยังคงมีสัญญาการขายผ่านธนาคารทหารไทยอีก 5 ปีจากเดิมที่เคยทำไว้ 10 ปี ซึ่งการเปลี่ยนชื่อและผู้ถือหุ้นใหญ่นั้นไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาสามารถทำเบี้ยรับรวมได้ถึง 5,700 ล้านบาท เติบโตขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2555