นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยผลการประชุม FOMC เมื่อวานนี้ว่า เฟดยังคงมีท่าทีสำหรับการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำที่ 0.00-0.25% ต่อไป แต่อย่างไรก็ดีคงต้องจับตาทิศทางของมาตรการ QE อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยเฉพาะ GDP ในไตรมาส 2 ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทำให้คาดว่าสินทรัพย์เสี่ยงและอัตราผลตอบแทนระยะยาวจะยังคงผันผวน
ในระยะสั้นสินทรัพย์เสี่ยงและพันธบัตรระยะยาวคาดว่ายังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง ซึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแนะนำให้ลงทุนในกองทุนประเภทที่มีรอบระยะเวลาการลงทุนที่แน่นอน 3-6 เดือน เช่น กองทุนเปิดวรรณตราสารหนี้ 3M1 (1FIX-3M1) และกองทุนเปิด วรรณ ไฟแนนเชียล อินสตรูเมนท์ 6M/1 (1FIN6M/1) ซึ่งโดยรวมได้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าตราสารการเงินในระยะสั้น เนื่องจากส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (yield gap) ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะกอง 6 เดือน นายวินกล่าว
นายวินกล่าวต่อไปว่า บลจ.วรรณจะเปิดขายกองทุนเปิด 1FIX-3M1 รอบใหม่ระหว่างวันที่ 1-8 ส.ค. 56 และกองทุนเปิด 1FIN6M/1 ระหว่างวันที่ 2-9 ส.ค. 56 นี้ โดยกองทุนเปิด 1FIX-3M1 เป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ รอบการลงทุนประมาณ 3 เดือน อัตราผลตอบแทน 2.82% ต่อปี จากการลงทุนในตั๋วแลกเงินของ บมจ.เอเชียเสริมกิจลีสซิ่ง ประมาณ 20% ตั๋วแลกเงินของ บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง ประมาณ 20% ตั๋วแลกเงินของ บมจ.สามารถเทเลคอม ประมาณ 10% ตั๋วแลกเงินของ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ประมาณ 5% เงินฝากของ บมจ.ธนาคารทิสโก้ประมาณ 20% และ Bank of China ประมาณ 25% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ค. 56)
และกองทุนเปิด 1FIN6M/1 รอบการลงทุนประมาณ 6 เดือน อัตราผลตอบแทน 3.00% จากการลงทุนในตั๋วแลกเงินของ บมจ.เอเชียเสริมกิจ ลีสซิ่ง ประมาณ 20% ตั๋วแลกเงินของ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ประมาณ 20% ตั๋วแลกเงินของ บมจ.ราชธานี ลีสซิ่ง 15% ตั๋วแลกเงินของ บมจ.สามารถเทลคอม ประมาณ 15% เงินฝากของ Bank of China 20% และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 10% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ค. 56)
นายวินกล่าวปิดท้ายว่า กองทุนทั้งสองกองทุนนี้ให้ผลตอบแทนในระดับที่จูงใจและมีความเสี่ยงต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3-6 เดือนอยู่ในระดับประมาณ 2.33-2.50%
ด้านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด จะทำการเสนอขายกองทุนเปิดธนชาต Fixed Income 6M33 (TFI6M33) ระยะเวลาลงทุนประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 2.85% ต่อปี มีเป้าหมายลงทุนในเงินฝากของ Bank of China / บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป ประมาณ 22% ลงทุนในงินฝากของ Abu Dhabi Commercial Bank / First Gulf Bank ประมาณ 22% ลงทุนในตัวแลกเงินที่ออกโดย บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ / บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส ประมาณ 22% ลงทุนในตั๋วแลกเงินของ ธ.ไอซีบีซีลีสซิ่ง (ไทย) / ตราสารหนี้ที่ออกโดย บจ.โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ประมาณ 19% และลงทุนในตั๋วแลกเงินที่ออกโดย บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง / บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง ประมาณ 15% อายุประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทนรวมของตราสารประมาณ 2.9935% ต่อปี โดยมีประมาณการค่าใช้จายกองทุนประมาณ 0.1435% ต่อปี
ในระยะสั้นสินทรัพย์เสี่ยงและพันธบัตรระยะยาวคาดว่ายังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง ซึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแนะนำให้ลงทุนในกองทุนประเภทที่มีรอบระยะเวลาการลงทุนที่แน่นอน 3-6 เดือน เช่น กองทุนเปิดวรรณตราสารหนี้ 3M1 (1FIX-3M1) และกองทุนเปิด วรรณ ไฟแนนเชียล อินสตรูเมนท์ 6M/1 (1FIN6M/1) ซึ่งโดยรวมได้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าตราสารการเงินในระยะสั้น เนื่องจากส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (yield gap) ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะกอง 6 เดือน นายวินกล่าว
นายวินกล่าวต่อไปว่า บลจ.วรรณจะเปิดขายกองทุนเปิด 1FIX-3M1 รอบใหม่ระหว่างวันที่ 1-8 ส.ค. 56 และกองทุนเปิด 1FIN6M/1 ระหว่างวันที่ 2-9 ส.ค. 56 นี้ โดยกองทุนเปิด 1FIX-3M1 เป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ รอบการลงทุนประมาณ 3 เดือน อัตราผลตอบแทน 2.82% ต่อปี จากการลงทุนในตั๋วแลกเงินของ บมจ.เอเชียเสริมกิจลีสซิ่ง ประมาณ 20% ตั๋วแลกเงินของ บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง ประมาณ 20% ตั๋วแลกเงินของ บมจ.สามารถเทเลคอม ประมาณ 10% ตั๋วแลกเงินของ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ประมาณ 5% เงินฝากของ บมจ.ธนาคารทิสโก้ประมาณ 20% และ Bank of China ประมาณ 25% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ค. 56)
และกองทุนเปิด 1FIN6M/1 รอบการลงทุนประมาณ 6 เดือน อัตราผลตอบแทน 3.00% จากการลงทุนในตั๋วแลกเงินของ บมจ.เอเชียเสริมกิจ ลีสซิ่ง ประมาณ 20% ตั๋วแลกเงินของ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ประมาณ 20% ตั๋วแลกเงินของ บมจ.ราชธานี ลีสซิ่ง 15% ตั๋วแลกเงินของ บมจ.สามารถเทลคอม ประมาณ 15% เงินฝากของ Bank of China 20% และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 10% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ค. 56)
นายวินกล่าวปิดท้ายว่า กองทุนทั้งสองกองทุนนี้ให้ผลตอบแทนในระดับที่จูงใจและมีความเสี่ยงต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3-6 เดือนอยู่ในระดับประมาณ 2.33-2.50%
ด้านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด จะทำการเสนอขายกองทุนเปิดธนชาต Fixed Income 6M33 (TFI6M33) ระยะเวลาลงทุนประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 2.85% ต่อปี มีเป้าหมายลงทุนในเงินฝากของ Bank of China / บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป ประมาณ 22% ลงทุนในงินฝากของ Abu Dhabi Commercial Bank / First Gulf Bank ประมาณ 22% ลงทุนในตัวแลกเงินที่ออกโดย บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ / บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส ประมาณ 22% ลงทุนในตั๋วแลกเงินของ ธ.ไอซีบีซีลีสซิ่ง (ไทย) / ตราสารหนี้ที่ออกโดย บจ.โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ประมาณ 19% และลงทุนในตั๋วแลกเงินที่ออกโดย บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง / บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง ประมาณ 15% อายุประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทนรวมของตราสารประมาณ 2.9935% ต่อปี โดยมีประมาณการค่าใช้จายกองทุนประมาณ 0.1435% ต่อปี