บลจ.วรรณ เผยเงินบาทแข็งต่อ คาด ธปท. อาจออกมาตรการป้องกันความผันผวนจากเงินทุนไหลเข้า ขณะเดียวกันมีปัจจัยบวกนักลงทุนลดความกังวลเช่น BOJ มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเดือนละ 7 ล้านล้านเยน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาด ด้านหุ้น ไทยคาดหลังสงกรานต์ปรับตัวได้ในระดับ 1,540 -1,550 แนะลง 1VAL-D แนะทยอยสะสมหุ้น Defensive และ LTF ชู 1 VAL-D ผลตอบแทนเด่น
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด คาดว่า ตลาดหลักทรัพย์ ฯ น่าจะมีแนวรับที่ประมาณ 1,460 จุด หลังความกังวลจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ที่อาจจะทำให้ ธปท.อาจจะออกมาตรการมาเพื่อป้องกันความผันผวนจากเงินทุนไหลเข้า รวมไปถึงปัญหาความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ตลอดจนการแก้ไขหนี้ในยุโรปรวมถึงการเมืองภายในประเทศอีกด้วย
ทั้งนี้บริษัท ฯ มองว่า ความกังวลในมาตรการป้องกันค่าเงินบาทแข็งค่าของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.น่าจะเป็นเรื่องที่อาจจะเป็นความกังวลมากเกินไป ขณะที่ปัจจัยบวกต่าง ๆ อาทิเช่น BOJ มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเดือนละ 7 ล้านล้านเยน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาด
ในมุมมองของบริษัทฯ ยังเชื่อว่าปีนี้ตลาดหุ้นไทยยังคงน่าลงทุน โดยคาดว่าตลาดในระยะกลางน่าจะยังปรับตัวได้ในระดับ 1,540-1,550 และถือเป็นจังหวะของผู้ที่รอสะสมการลงทุนการลงทุนในหุ้น โดยการลงทุนในช่วงนี้นักลงทุนควรจัดสรรพอร์ตโฟลิโอ (Asset Allocation)ของตนเอง
โดยทยอยสะสมการลงทุนหุ้นมากกว่าตราสารหนี้ เช่น กองทุน LTF เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี หรือ กองทุนที่มีพอร์ตโฟลิโอแบบ Defensive Stock เน้นการลงทุนแบบ Low Beta ผลตอบแทนไม่อ่อนไหวต่อความผันผวนของตลาด เช่น กองทุน 1VAL-D ลดความกังวลของการปรับตัวลงของหุ้นที่อ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจ เพราะ 1VAL-D ช่วยคัดกรองหุ้นเหล่านี้ออกไปเพื่อให้มั่นใจว่าหุ้นที่เลือกมานั้นมี Earning Visibility นายวินกล่าว
สำหรับกองทุนเปิด 1VAL-D มีผลตอบแทนย้อนหลังนับตั้งแต่ต้นปี 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี เท่ากับ 22.80% 22.78%, 35.74% และ64.54% ตามลำดับ ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ฯ เท่ากับ 12.15%, 12.15%, 20.19% และ 29.67% ตามลำดับ ข้อมูล ณ วันที่ 29 มี.ค.56
ทั้งนี้ดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และ/หรือ หุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงกว่าอัตราค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมทั้งหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตดี และมีราคาต่ำเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานในระยะปานกลางถึงระยะยาว โดยเฉลี่ยในรอบปีปัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) และตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Note)
