บลจ.กสิกรไทย บลจ.กรุงไทย และ บลจ.ธนชาต พาเหรดเปิดขายไอพีโอกองทุนตราสารหนี้ไม่เกิน 1 ปี ลงทุนทั้งตราสารหนี้ไทย รวมถึงเงินฝากต่างประเทศ ชูผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 3% ต่อปี เปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 19 มีนาคม 2556
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทเปิดขายกองทุนบอนด์ต่างประเทศเพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนกับตราสารหนี้ในประเทศที่มีอายุใกล้เคียงกัน บริษัทจะเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการจำนวน 3 กองทุน ทั้งอายุ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี พร้อมนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวนในวันที่ 12-18 มีนาคม 2556 ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ซีเอช (KFI3MCH) โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.80% ต่อปี กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน บีอี (KFI6MBE) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.00% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี บีเค (KFF1YBK) ซึ่งให้โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.15% โดยผลตอบแทนจากทั้ง 3 กองทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเดียวกันบริษัทจะเปิดขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน บีวาย (KPPTF3MBY) โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนส่วนใหญ่ประมาณ 80% ในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคารพาณิชย์ โอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีที่ 2.60% ต่อปี เพื่อตอบรับความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมากและต้องการลงทุนกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลักอีกด้วย
ทางด้านนายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 76 (KTSUPB76) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 19 มีนาคม 2556 อายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 7,000 ล้านบาท เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ได้แก่ เงินฝากประจำ Union National Bank เงินฝากประจำ The Commercial Bank of Qatar ECP ค้ำประกันโดย SBER Bank และ MTN ออกโดย Banco BTG Pactual S.A. ในสัดส่วน 72% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน/บริษัทเอกชนในประเทศ ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.00% ต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน 3 (KTSIV3M3 ) ประเภท Roll Over เสนอขายถึงวันที่ 15 มีนาคม 2556 อายุโครงการ 3 เดือน เน้นลงทุนในเงินฝาก / บัตรเงินฝาก /ตั๋วแลกเงิน ธนาคารออมสิน ธนาคาร RHB และธนาคาร TBANK ในสัดส่วน 53% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในตั๋วแลกเงินของภาคเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.75% ต่อปี
นางสาวทิพวัลย์ เอี่ยมโอภาส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ จะทำการเสนอขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y5 (T-FixFIF1Y5) ระยะเวลาลงทุนประมาณ 1 ปี ผลตอบแทนประมาณ 3.15% ต่อปี มีเป้าหมายลงทุนในเงินฝากสกุลเงิน Arab Emirates Dirham ของ Union National Bank ประมาณ 22% ลงทุนในเงินฝากสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) ของ Bank of China ประมาณ 22% ลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดย Itau Unibanco S.A. ประมาณ 22% ที่ออกโดย Banco Bradesco ประมาณ 10.90% ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่ออกโดย Emirates NBD ประมาณ 23% และลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ประมาณ 0.10% อายุประมาณ 1 ปี ผลตอบแทนรวมของตราสารประมาณ 3.3385% ต่อปี โดยมีประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 0.1885% ต่อปี
ทั้งนี้ กองทุนจะป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนสำหรับมูลค่าตราสารหนี้ต่างประเทศที่กองทุนลงทุน โดยกองทุนจะเสนอขายครั้งเดียววันที่ 12-18 มีนาคม 2556
และกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน#4 (TFIX-3M#4) รอบการลงทุนประมาณ 3 เดือน และสามารถลงทุนได้ต่อเนื่องประมาณ 3 เดือนต่อรอบ ผลตอบแทนประมาณ 2.75% ต่อปี มีเป้าหมายลงทุนในตั๋วแลกเงิน ธ.ไอซีบีซี (ไทย) / เงินฝากประจำ ธ.ออมสิน ประมาณ 22% ลงทุนในตั๋วแลกเงิน ธ.ทิสโก้ /ธ.ธนชาต ประมาณ 22% ลงทุนในตั๋วแลกเงิน บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ / บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง ประมาณ 24.50% ลงทุนในตั๋วแลกเงิน บจ.อยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง / บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส ประมาณ 23% ลงทุนในตั๋วแลกเงิน บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ / บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา 8.40% และลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์ประมาณ 0.10% อายุประมาณ 3 เดือน ผลตอบแทนรวมของตราสารประมาณ 2.9564% ต่อปี ประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 0.2064% ต่อปี รับคำสั่งซื้อ-ขายวันที่ 15-19 มีนาคม 2556