xs
xsm
sm
md
lg

คาด กนง.คงดอกเบี้ย บลจ.แนะล็อกเงินสั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.คาดดอกเบี้ยต่ำถึงกลางปี ฟันธง กนง.ยังไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย R/P ในวันที่ 9 มกราคมนี้ แม้เห็นสัญญาณเงินเฟ้อปรับขึ้น มั่นใจยังอยู่ในกรอบที่แบงก์ชาติกำหนด พร้อมแนะลงทุนสั้นต่อไป ชูทางเลือกเปิดขายกองตราสารหนี้เพิ่มทั้งไทย-เทศ

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อของไทยในเดือนธันวาคมพุ่งขึ้นร้อยละ 3.63 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยสูงกว่าตัวเลขเดือนพฤศจิกายนเกือบร้อยละ 1 แต่อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงอยู่ในเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย จึงไม่มีแรงกดดันให้มีการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 2.75 ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันที่ 9 มกราคมนี้ สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลังของสภาคองเกรส โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.02-0.11 และเส้นอัตราผลตอบแทนมีลักษณะชันมากขึ้น

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการขายและการตลาด บลจ.แอสเซทพลัส กล่าวว่า การประชุมของ กนง.ครั้งนี้คาดว่าทางคณะกรรมการจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ ระดับ 2.75% จากปัจจัยเศรษฐกิจของประเทศที่ยังมีการขยายตัวจากการบริโภคและลงทุนภายในประเทศ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 3.63% จากเดิมที่คาดว่าอยู่ที่ระดับ 3.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ระดับ 1.78% ชะลอลงจาก 1.85% ในเดือนก่อนหน้า

ด้านนายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทยมองว่าแนวโน้มอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ทั้งพันธบัตรรัฐบาลรวมถึงตราสารหนี้เอกชนระยะสั้นยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงไปจนถึงอย่างน้อยกลางปีนี้ ดังนั้น การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดระยะเวลาจึงควรที่จะลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 1 ปี เพื่อล็อกอัตราผลตอบแทนเอาไว้ก่อนที่อัตราผลตอบแทนในตลาดจะปรับตัวลดลง

เปิดขายกองบอนด์ไทย-เทศ

จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยข้างต้น บลจ.กรุงศรีได้ทำการเปิดขายกองทุนกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M51 (KFFIX6M51) อายุประมาณ 6 เดือน ระหว่างวันที่ 8-14 ม.ค. 56 ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดย ธ.ธนชาต จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 12% ตั๋วแลกเงินออกโดย บ. อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 12% เป็นต้น

ด้าน บลจ.แอทเซทพลัสจะ Rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 4 (ASP-ACFIXED4) ในวันที่ 9 มกราคมนี้ ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ในประเทศที่เสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยรอบการลงทุนนี้มีระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ทั้งนี้กองทุนจะลงทุนในตั๋วเงินคลังหรือพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงินหรือเงินฝากในประเทศ ผลตอบแทนประมาณ 2.95% ต่อปี

ขณะที่ บลจ.กสิกรไทยฯ จะเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการจำนวน 3 กองทุน อายุ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ในวันที่ 8-14 มกราคม 2556 เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนกับตราสารหนี้ในประเทศที่มีอายุใกล้เคียงกันในภาวะดอกเบี้ยขาลง ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี บีอี (KFF1YBE) โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.25% ต่อปี กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน เอเอ็กซ์ (KFI6MAX) โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.95% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ซีเอ (KFI3MCA) โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.80% ต่อปี


กำลังโหลดความคิดเห็น