สรุปข่าวเด่นกองทุนดัง : กองทุนบอนด์ยังคึกคัก

มาพบเจอกันอีกแล้วกับสรุปข่าวเด่นกองทุนดังในรอบสัปดาห์นี้ ดูเหมือนว่ากองทุนรวม RMF - LTF จะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะถือได้ว่าเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของปีที่ใครหลายคนต่างกำลังหากองทุนที่สามารถนำมาลดหย่อนทางภาษีได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูด้วยว่ากองทุนใดสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีและมีความเสี่ยงที่พอเหมาะกับตัวเราเองด้วย...

แต่อย่างไรก็ตามในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลาย ๆ บลจ. นอกจากจะกระตุ้นกองทุน RMF - LTF แล้ว กองทุนตราสารหนี้ก็ยังเปิดออกมาให้นักลงทุนได้ยลโยมกัน เริ่มกันที่ บลจ. กรุงศรี เสนอขายกองทุนกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M49 (KFFIX6M49) อายุประมาณ 6 เดือน มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดย ธ.ธนชาต จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 12% ตั๋วแลกเงินออกโดย บ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 12% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดย ธ. Banco Bradesco S.A. (บราซิล) สัดส่วนการลงทุน 16% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดย ธ. Banco Itau Unibanco S.A. (บราซิล) สัดส่วนการลงทุน 16%

นอจากนี้ยังลงทุนในเงินฝากธนาคาร Commercial Bank of Qatar สัดส่วนการลงทุน 10% เงินฝากธนาคาร Standard Chartered Bank (สิงคโปร์) สัดส่วนการลงทุน 10% เงินฝากธนาคาร Union National Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 24% โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.95% ต่อปี เปิดขายหน่วยลงทุนตั้งแต่วันนี้ถึง 24 ธันวาคม 2555

ทางด้าน บลจ.ธนชาต จำกัด ระบุว่า บลจ.ธนชาตกำลังอยู่ในช่วงเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุน กองทุนเปิดธนชาตชาเลนจ์ 3 ซึ่งเป็นกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ตั้งเป้าผลตอบแทน 7% ภายใน 7 เดือน โดยกองทุนดังกล่าวมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และมีโอกาสที่จะทำกำไรในช่วงภาวะผันผวนอีกด้วย เปิดขายไอพีโอระหว่างวันที่ 17-24 ธันวาคมนี้

ขณะเดียวกัน บลจ.ธนชาตก็ได้เปิดขายตราสารหนี้ระยะสั้นอีก 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ธนชาต Fixed Income 6M13 โดยกองทุนมีอายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนประมาณการที่ 3% ต่อปี และกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน#4 โดยกองทุนมีอายุ 3 เดือน ให้ผลตอบแทน 2.7% ต่อปีอีกด้วย ตั๋วแลกเงิน บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ และ บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ ในสัดส่วน 8.4% และเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศในสัดส่วน 0.10% เปิดขายหน่วยลงทุนตั้งแต่วันนี้ถึง 24 ธันวาคม 2555
ตามมาติด ๆ กับ บลจ.กสิกรไทย เปิดไอพีโอ 3 กองรวด " กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี บีซี หรือ KFF1YBC , กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน เอวี หรือ KFI6MAV และกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน บีเอ็น หรือ KPPTF3MBN หวังเพิ่มดีมานด์ช่วงปลายปี เริ่มขายแล้ววันนี้ ถึง 24 ธันวาคม นี้

โดยกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี บีซี ให้ผลตอบแทนประมาณการที่ 3.4% โดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนใน ตราสารหนี้ Banco Bradesco ประเทศบราซิล ในสัดส่วนการลงทุน 24% , เงินฝาก First Gulf Bank ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในสัดส่วนการลงทุน 24% , ตราสารหนี้ Banco Santander ประเทศบราซิล ในสัดส่วนการลงทุน 24% , เงินฝาก Emirates NBD Bank ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในสัดส่วนการลงทุน 20% , และตราสารหนี้ ltau Unibanco S.A.ประเทศบราซิล ในสัดส่วนการลงทุน 8%

ส่วนกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน เอวี อายุ 6 เดือน ให้ผลตอบแทนประมาณการที่ 3.05% จะเข้าไปลงทุนใน ตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ประเทศไทย ในสัดส่วน 24% , ตราสารหนี้ Banco Santander ประเทศบราซิล ในสัดส่วนการลงทุน 24% , ตราสารหนี้ Standard Chartered Bank สาขาสิงคโปร์ ในสัดส่วน 24% , เงินฝาก PT Bank CIMB Niaga Tbk ประเทศอินโดนีเซีย ในสัดส่วน 10% , เงินฝาก Emirates NBD Bank ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในสัดส่วน 10% ,และตราสารหนี้ Sberbank ในสัดส่วน 8%

สุดท้ายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน บีเอ็น อายุ 3 เดือน ให้ผลตอบแทนประมาณการที่ 2.6% โดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย สัดส่วนการลงทุน 80% และเงินฝากประจำ 3 เดือน ของธนาคารทิสโก้ สัดส่วนการลงทุน 20%