xs
xsm
sm
md
lg

กรุงไทยแนะจับตานโยบายรัฐปี 56

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฝ่ายวิจัย บลจ.กรุงไทยประเมินปลายปีนี้แรงซื้อกองทุน LTF-RMF หนุนหุ้นไทยมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง มองแนวรับแรกที่ 1,300-1,314 จุด ส่วนแนวต้านยังคงอยู่บริเวณ 1,350 จุด พร้อมแนะจับตานโยบายการลงทุนของภาครัฐในปีหน้า คาดนักลงทุนยังมีมุมมองเชิงบวกต่อปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐฯ

รายงานข่าวจากฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ทิศทางการลงทุนในเดือนธันวาคมนั้นดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องตาม Seasonal โดยตลาดจะมีแรงซื้อจากเม็ดเงินของ RMF-LTF เข้ามาในช่วงสิ้นปี ประเด็นที่ต้องติดตามอยู่คือปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐฯ ที่นักลงทุนยังมีมุมมองในเชิงทางบวกว่าจะผ่านพ้นไปได้ ส่วนปัญหาเศรษฐกิจของยุโรปที่ต้องพิจารณาต่อไปในปีหน้า รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจะเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดไว้หรือไม่ เพราะถ้ามีการฟื้นตัวจริงกลุ่มหลักทรัพย์ที่เป็น Cyclical จะกลับขึ้นมาได้ รวมถึงปัจจัยหนุนจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของภูมิภาคเอเชียในระยะยาว ส่งผลให้จำนวนแรงงานลดลง ภาคการผลิตจะถูกกระทบไปด้วย และมีความต้องการความหลากหลายของการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีเพิ่มขึ้นเพื่อรับรองประชากรผู้สูงอายุในอนาคต

นอกจากนี้ การลงทุนในปีหน้าจะให้ความสนใจไปที่การลงทุนในภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่เน้นกลุ่มหลักทรัพย์ที่ได้รับผลดีจากการบริโภคภายในเป็นหลัก ส่วนการลงทุนที่เกี่ยวกับประเด็นการกระจายรายได้และความเป็นเมืองสู่ชนบท รวมถึงกลุ่ม AEC ยังคงมีอยู่ การดำเนินนโยบายภาครัฐยังมีแบบผ่อนคลายในครึ่งปีแรกของปี 2556 แต่หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจดีกว่าที่คาดก็อาจเปลี่ยนนโยบายได้

อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นมาค่อนข้างมากมาจากช่วงต้นปี และเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ซึ่งมี P/E ที่ถูกกว่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจลดลงได้ในระยะสั้น โดยกลยุทธ์คือทยอยขายเมื่อดัชนีขยับขึ้นแรง ดัชนีมีแนวรับแรกที่ 1,300-1,314 จุด ส่วนแนวต้านยังคงอยู่บริเวณ 1,350 จุด

สำหรับตลาดตราสารหนี้ในเดือนนี้นั้น ผลตอบแทนระยะสั้นอาจจะปรับลดลงแต่ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับขึ้น โดยพันธบัตรระยะสั้นจะได้รับปัจจัยบวกจากที่หลายฝ่ายยังคงคาดว่า กนง.อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงต้นปีหน้า อีกทั้งยังเป็นที่พักเงินระยะสั้นในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอาจปรับเพิ่มขึ้นได้จากปัจจัยฤดูกาลที่มักจะมีอุปทานพันธบัตรใหม่ออกมาค่อนข้างน้อยในช่วงปลายปี แต่ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ประกาศออกมาล่าสุดลดลงไปค่อนข้างมากทำให้ความกังวลต่อเงินเฟ้อในประเทศเพิ่มความผ่อนคลายอาจจำกัดการปรับเพิ่มขึ้นผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวได้

“ปัจจัยที่อาจจะต้องติดตามการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโอบามากับสภาคองเกรสในการแก้ไขปัญหา Fiscal Cliff ว่าจะสามารถยืดอายุบางมาตรการออกไปได้หรือไม่ ซึ่งจะมีผลกำหนดแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงต้นปีหน้า ถ้าหากความขัดแย้งรุนแรงและไม่สามารถตกลงกันได้ก็อาจทำให้แรงซื้อเข้ามาในสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงปลายปี และต่อเนื่องถึงต้นปีหน้า”


กำลังโหลดความคิดเห็น