xs
xsm
sm
md
lg

KK PROP ผลงานโดดเด่น เพิ่มทุนอีก 350 ล้านรับดีมานด์ตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กองทุนเปิเคเค พร็อพเพอร์ตี้ เพิ่มทุนรอบ 3 ของปีอีก 350 ล้านบาท หลังผลการดำเนินงานเด่นเป็นที่ต้องการของตลาด แถมเงินปันผลสูงเฉลี่ยปีละ 7%

นายศุภกร สุนทรกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เกียรตินาคิน เปิดเผยว่า กองทุนเคเค พร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ (KK PROP) ได้ดำเนินการเพิ่มทุนรอบที่ 3 ของปีจำนวน 350 ล้านบาท และเปิดเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปจองซื้อหน่วยลงทุนตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผลปรากฏว่านักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหน่วยลงทุนอย่างคับคั่ง ปัจจุบันเหลือมูลค่าหน่วยลงทุนที่สามารถจองซื้อได้เพียง 50 ล้านบาท เนื่องจากกองทุนเปิด เคเค พร็อพเพอร์ตี้ฯ เป็นกองทุนที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องและมีการจ่ายงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยปกติแล้วจะจ่ายเงินปันผลทุกไตรมาส จึงเป็นที่ต้องการของตลาด

“กองทุนเปิดเคเค พร็อพเพอร์ตี้ฯ ยังคงดำรงสัดส่วนการลงทุนตามนโยบายการลงทุน คือลงทุนในหน่วยลงทุนหมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ (Property Sector Fund) ประมาณ 85% และลงทุนใน Real Estate Investment Trusts (REITs) ต่างประเทศ เช่น ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้น ที่ผ่านมากองทุนเปิด เคเค พร็อพฯ มีผลการดำนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอทุกไตรมาส โดยเฉลี่ยทั้งปีมีอัตราเงินปันผลอยู่ที่ 7% ส่งผลให้นักลงทุนในตลาดมีความต้องการหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด เคเค พร็อพฯ เป็นอย่างมาก” ดร.ศุภกรกล่าว

ทั้งนี้ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นการลงทุนทางเลือกที่นักลงทุนให้ความสนใจลงทุนในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อสูงเช่นปัจจุบัน เนื่องจากราคาอสังหาริมทัพย์จะปรับไปในทิศทางเดียวกับอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลให้ผลประกอบการเติบโตโดดเด่น ในขณะที่ความผันผวนทางด้านราคาต่ำกว่า เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ซื้อเพื่อผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว

อนึ่ง การเพิ่มทุนของกองทุนเปิด เคเค พร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ (KK PROP) ครั้งนี้ถือเป็นรอบที่ 3 ของปีนี้ หลังจากเพิ่มทุนครั้งแรกไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจำนวน 750 ล้านบาท ภายหลังจากการเพิ่มทุนมูลค่ากองทุนจะอยู่ที่ 1,850 ล้านบาท โดยกองทุนเปิด เคเค พร็อพเพอร์ตี้ฯ จะเน้นลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector Fund) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ที่เหลือเป็นการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น