xs
xsm
sm
md
lg

"ดาจิม"แร็ปเปอร์หัวใจไทย สะสมทองคำต่อยอดธุรกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ผมดาจิมแร๊พไทย คุณไม่ฟังได้ไง ถ้าไม่ฟังจะเสียใจจะบอกให้ ผมดาจิมแร๊พไทย ถ้าพวกคุณชอบใจ ถ้าร้องได้ก็ร้องไป โยกก็ได้" เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกับเพลงนี้แน่นอน และเจ้าของเพลงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก "ดาจิม-สุวิชชา สุภาวีระ" นักร้องแร๊ปเปอร์ในยุคปี 2543 ที่เคยทำอัลบั้มใต้ดินโด่งดังจนไปสะกิดเจ้าหน้าที่รัฐกลายเป็นคดีโด่งดังมาแล้วตามหน้าหนังสือพิมพ์ ตอนนี้เขากลับมาอีกครั้งหลังจากหายหน้าหายตาไปหลายปี ซึ่งแน่นอนว่า"คอลัมน์เจาะพอร์ตคนดัง"ไม่พลาดโอกาสจะพาไปรู้จักเขาอีกครั้งในแง่มุมที่เกี่ยวกับเงินๆทอง

เริ่มต้น"ดาจิม" เล่าให้ฟังว่า จริงๆก็ไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหน พอหมดสัญญากับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ปี 2550 ก็มีรับงานคอนเสริ์ตทั่วประเทศ มีงานเกือบทุกวันแต่ช่วงหน้าฝนงานก็จะน้อยหน่อย หลังจากนั้นทำอัลบั้มเพลงใต้ดินชื่อ Independence Day ในปี 2552 ระหว่างนี้ก็มีทัวร์คอนเสริ์ตและทำธุรกิจกับเพื่อนๆก็คือ ผับบาร์ อยู่ที่พัทยาและเกาะล้าน แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำแล้ว โดยงานหลักๆที่มีอยู่ตอนนี้ก็คือมีคอนเสริ์ต และการเล่นฟุตบอลดารา

หลายคนอาจสงสัยว่าเขาจัดสรรเงินในการใช้จ่ายอย่างไรในช่วงที่หายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิง"ดาจิม"เล่าวว่า ในช่วงที่งานรุ่งๆนั้นผมเป็นคนชอบเก็บสะสมทองคำซึ่งก็มีมากพอสมควร ในช่วงที่ไม่มีงานคอนเสริ์ต ก็ได้นำทองออกมาแปรสินทรัพย์ให้เป็นทุน ซึ่งผมถือว่าผมโชคดีที่ไม่มีหนี้สิ้น เพราะตอนยังมีกำลัง ผมก็ซื้อรถและบ้านด้วยเงินสด ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการผ่อนอะไรทั้งสิ้น

"ชีวิตผมจริงๆมันไม่เครียดเท่าไรนะ เพราะผมไม่มีภาระอะไร ผมก็ดูแลคุณแม่ ค่าใช้ในบ้านผมก็ดูแลไป ซึ่งแม่ก็ทำงานเล็กๆน้อยๆดูแลตัวเองด้วยเช่นกัน ก็ไม่ได้มีรายจ่ายอะไรมากมาย ส่วนน้องชายอีก 2 คนก็ทำงานแล้ว อีกอย่างผมใช้เงินน้อยด้วย ถ้าถามว่าผมประหยัดไหม จริงๆผมประหยัดเป็นช่วงๆนะ ก็จะมีเก็บออมอย่างเดียวเลย แต่บางทีก็มีบ้างที่อยากได้อะไรก็ซื้อ แต่มานั่งคิดอีกทีก็ด่าตัวเองว่าซื้อมาทำไมไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าพูดแบบแมนๆเลยนะคือมันอยู่ที่เงินมากกว่า ครั้งไหนเงินเยอะก็ซื้อให้กับตัวเองเป็นของขวัญบ้างแต่อย่าบ่อย ช่วงไหนงานน้อยก็ประหยัดกันหน่อย"

ส่วนการเก็บเงินในช่วงนี้ผมจะใส่บัญชีธนาคารไว้ก่อนเพราะตอนนี้มีเป้าหมายที่จะใช้เงิน และก็มีทองคำเก็บไว้บ้าง ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้ซื้อเท่าไรเพราะราคาค่อนข้างแพง ซึ่งระยะถัดไปผมคงจะซื้อประกันชีวิตตอนนี้กำลังศึกษาข้อมูลอยู่ สำหรับการวางแผนในอนาคตของผมนั้นก็ยังดูอยู่เรื่อยๆโดยใน1-2 ปีนี้อยากทุ่มเทให้กับงานเพลงก่อนเพราะไม่ได้ทำมานานมากแล้ว

"ผมว่าจะวางแผนการชีวิตตัวเองในอายุ 40 นะ ตอนนี้อยากใช้ชีวิตไปเรื่อยๆก่อน ผมว่าข้อเสียของผมคือตัวคนเดียวไม่ได้มีภาระอะไรมาก อยากทำอะไรก็ทำแต่ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน"

"ดาจิม" บอกว่า กว่าผมจะศิลปินผ่านมาหลากหลายอาชีพ เคยขายของเบกะดิน เป็นพ่อค้าขายซีดีขายเทป แต่ก่อนที่ก็เคยทำร้านเช่าวีดีโอ เป็นดีเจตามผับก็เคย เป็นเเดนเซอร์รับจ้าง แล้วก็ผันตัวเองมาทำเพลงใต้ดินจนมาอยู่บนดินถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งล่าสุดก็มีซิงเกิ้ลเพลง 'เป๊ะเว่อร์'กับค่ายเพลง masscotte ส่วนซิงเกิ้ลที่ 2 ก็จะปล่อยเร็วๆนี้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม"ดาจิม"เองก็เคยมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาก่อนเขาเล่าให้ฟังว่า เคยทำผับเองมาแล้ว ที่รัชดาซอย 4 ชื่อร้ายว่า NYU Club ทำมาประมาณ 1 ปีปรากฎว่าก็ปิดกิจการไปตามระเบียบก็เข้าใจว่าเราไม่เคยทำธุรกิจอะไรแบบนี้มาก่อน อีกอย่างเราก็ไม่ใช่มืออาชีพ ก็ได้ประสบการณ์กันไป แต่พอมาทำธุรกิจผับบาร์กับเพื่อนๆก็ทำได้ไม่นานเพราะคิดว่ามันไม่ใช่แนวเรา เราค้นพบว่าสิ่งที่เหมาะกับเรามากที่สุดคือการทำเพลง

เมื่อมาถึงการทำเพลงต้องยอมรับว่ายุคสมัยของการทำอัลบั้มมันเปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งเมื่อ3-4 ปีก่อนผมไม่เชื่อนะคิดว่าการทำเทป ซีดีเพลงขายยังอยู่ได้ พอเราออกจากค่ายใหญ่มาก็ทำอัลบั้มเต็มที่ชื่อว่า Independence Day จัดเต็มที่เลยมี 15 เพลง และประเมินว่าแฟนเพลงก็น่าจะอุดหนุน ซึ่งมันกลับตาลปัตรกันเลยปรากฎว่าเขาฟังเพียงอย่างเดียวเพราะโลกดิจิตอล แต่ก่อนเราคิดว่าทำอัลบั้มเพลงควรจะทำให้เต็มที่จัดเต็มเพื่อคืนกำไรให้กับลูกค้า ให้ลูกค้าซื้อเก็บ 10 เพลงไม่ทำเอาไปเลย 15 เพลง พอวางแผนวันนี้อีก1-2 วันมีแผ่น MP3 วางขายทันที ซึ่งแน่นอนว่า MP3 ต้องขายดีกว่าอยู่แล้วเพราะเขาซื้อไปแผ่นเดียวก็คุ้ม หลังจากนั้นพอมาทำอัลบั้มใหม่เราก็ต้องเปลี่ยนเเปลงตามโลกดิจิตอลคือทำทีละซิงเกิ้ล ค่อยๆทยอยปล่อยออกมาให้ดาวน์โหลด

สำหรับอนาคตข้างหน้าผมอาจจะคิดไม่เหมือนคนอื่นนะ ผมอยากมีกิจการเป็นของตัวเองแต่กำลังอยู่ในช่วงมองหาธุรกิจอยู่ แต่คงไม่ใช่ผับบาร์แล้ว อยากทำอะไรที่เราชอบจริงๆ ผมเป็นคนชอบดำน้ำมากๆก็เลยอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับการดำน้ำ กับพวกเจ็ตสกี้ให้เช่าซึ่งอาจจะเน้นไปที่่ต่างชาติ ก่อนหน้านี้ที่ไปอยู่พัทยากับเกาะล้านก็พอจะเห็นลู่ทางในการทำธุรกิจอยู่บ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นธุรกิจก็ต้องมีทุนและต้องไปใช้ชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่ง ผมก็เลยอยากจะเก็บเงินและทำหน้าที่ในฐานะศิลปินตรงนี้ให้ดีเสียก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น