xs
xsm
sm
md
lg

สร้างความมั่งคั่งด้วยหุ้นคุณค่า (Value Stock)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คอลัมน์Design your life by Mutual Fund

โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 02-688-7777 ฝ่ายธุรกิจการลงทุนและที่ปรึกษาการลงทุน กด 2
http://www.ingfunds.co.th

ในช่วงภาวะการลงทุนที่มีความผันผวน แต่ในปีนี้ ตลาดหุ้นไทยนับเป็นตลาดหุ้นหนึ่งที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้มาจากเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่ไหลเข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเชียซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการเติบโตของผลกำไรสูง เปรียบเทียบผลตอบแทนในกลุ่ม TIPS ตลาดหุ้นไทยสร้างผลตอบแทน เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชีย โดยผลตอบแทน YTD ของตลาดหุ้นไทย 30.7% เทียบกับอันดับ 1 ฟิลิปปินส์ ที่ 30.9% ในขณะที่อินโดนีเซียอยู่ที่ 5.3% (Source: Bloomberg, 8 ตุลาคม 2012 (USD Based currency) ทั้งนี้มาจากมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางภาครัฐ โดยเน้นการอุปโภค-บริโภคของประชาชนภายในประเทศเป็นหลัก

อีกทั้ง ตลาดยังคงได้รับข่าวดีอย่างต่อเนื่องกับการออกมาประกาศของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เรื่องการออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) เพิ่มวงเงินซื้อตราสารหนี้ภาครัฐที่มีสินเชื่อจำนองอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน (Mortgage-Backed Securities: MBS) เพื่อเพิ่มปริมาณสภาพคล่องให้กับตลาดเงินและการหมุนเวียนของกระแสเงิน กระตุ้นให้เกิดการลงทุน การจับจ่ายใช้สอยของประชากรในประเทศ จนกว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ จะฟื้นตัว อีกทั้งยังขยายระยะเวลาตรึงดอกเบี้ยในระดับต่ำที่ 0-0.25% ไปจนถึงกลางปี 2015 เพื่อลดต้นทุนเพื่อลดต้นทุนทั้งภาคการผลิต และกระตุ้นปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของประชากรในประเทศให้เพิ่มสูงขึ้น มาตราการต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นมาตรการเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นนี้ ก่อให้เกิดสภาพคล่องส่วนเกินหลั่งไหลเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนสูง อาทิ ตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ซึ่งรวมถึงตลาดในภูมิภาคเอเชียและประเทศไทยด้วย โดยจะเห็นได้จากเม็ดเงินลงทุนต่างชาติยังไหลเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปีนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ +68,572.27 ล้านบาท (Source: SET, 5 ตุลาคม 2012)

ในมุมมองของ บลจ.ไอเอ็นจี เชื่อว่าตลาดหุ้นยังคงสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ แต่อาจจะมีความผันผวนเป็นระยะจากปัจจัยเสี่ยงภายนอก โดยเฉพาะปัญหาหนี้สาธารณะของกลุ่มยูโรโซน และปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีน

แต่หากนักลงทุนทุกท่านทราบแล้วว่า ในการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นนั้น ภาพตลาดการลงทุนโดยรวมจะมีทิศทางไปในทางใด รวมถึงจะมีปัจจัยใดบ้างที่เข้ามากระทบให้มีความผันผวน ดังนั้น ลักษณะการลงทุนของนักลงทุนที่ดีสิ่งสำคัญคือ การที่จะสามารถปรับเปลี่ยนการลงทุนได้อย่างเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ (ที่มิใช่เลือกที่จะปฏิเสธหรือหยุดการลงทุน) นั่นหมายถึง การพิจารณาเลือกลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายที่เหมาะสมในการลงทุนในขณะนั้นๆ นั่นเอง

ดังนั้น ในภาวะการลงทุนในปัจจุบัน นักลงทุนอาจจะพิจารณาเลือกลงทุนในกองทุนหุ้นที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นคุณค่า (Value Stock) ซึ่งเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และ/หรือมีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูง โดยลักษณะสำคัญของหุ้น Value ประกอบด้วย อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) อยู่ในระดับที่สูง อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) อยู่ในระดับต่ำ และอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (P/BV Ratio) อยู่ในระดับที่ต่ำ ดังนั้น การลงทุนในหุ้น Value จึงเป็นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว และมีความผันผวนต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในหุ้นประเภทอื่น ซึ่งเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์การลงทุน

ลองมาดูกันว่า ในช่วงที่ภาวะหุ้นมีการปรับตัวตลอดช่วงการลงทุน 3-5 ปีที่ผ่านมานั้น กองทุนหุ้นที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นคุณค่า (Value Stock) นั้น สามารถสร้างผลตอบแทนในการลงทุนที่ดีอย่างสม่ำเสมอให้กับนักลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง

ขออนุญาตยกตัวอย่าง “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลู พลัส ปันผล หุ้นระยะยาว” ซึ่งเป็นกองทุนในกลุ่มหุ้นระยะยาว (LTF) มีนโยบายการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Value Stock โดยกองทุนสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดี และได้รับการจัดอันดับเครดิต 4-Star ด้านผลตอบแทนรวมที่ดีในช่วง 3 ปีจากสถาบันจัดอันดับกองทุน Morningstar* (กันยายน 2012)

เอกสารการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
ที่มา: ผลการดำเนินงานกองทุน 28 กันยายน 2012
ที่มา: * Morningstar Thailand 28 กันยายน 2012

ท้ายนี้ การสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว คือ การวางแผนการออมและลงทุนอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าหมายในการลงทุนและวางแผนการลงทุนเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ดังนั้น การลงทุนที่จะประสบความสำเร็จเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดี สิ่งสำคัญคือ จำนวนเงินลงทุน ระยะเวลา ระดับความเสี่ยง การกระจายการลงทุนที่เหมาะสม และผลตอบแทน รวมถึงการเข้าใจในภาวะการลงทุนและพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนการลงทุนได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับเราได้ในอนาคต

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและคู่มือภาษีของกองทุนรวมหุ้นระยะยาวก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น