บลจ.พ้องเสียงแนะลงทุนหุ้นไทย-เอเชีย หลังพบปัจจัยหนุนเพียบ ทั้ง QE3 และศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง “ไทยพาณิชย์” แนะลุย LTF พร้อม 3 กองทุนหุ้นไทย ด้านทิสโก้ส่งกองทริกเกอร์ แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ทริกเกอร์ 9% #7 หวังฟันกำไร 9% เปิดขายตั้งแต่วันนี้ถึง 19 ตุลาคมนี้
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้การลงทุนในกองทุนหุ้นยังคงมีความน่าสนใจ เนื่องจากจะได้รับปัจจัยบวกจากสภาวะการลงทุนที่ตลาดหุ้นทั่วโลกยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของสหรัฐฯ หรือ QE3 และนโยบายอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางประเทศต่างๆ ทำให้มีเม็ดเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดการเงินในเอเชียอย่างต่อเนื่อง
ส่วนตลาดหุ้นในปีหน้าบริษัทคาดว่าจะยังสามารถไปต่อได้ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกอยู่ในระดับต่ำ นักลงทุนจึงยังมองหาสินทรัพย์ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้สม่ำเสมอ เช่น หุ้นปันผล กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และตราสารหนี้ประเทศเกิดใหม่
ด้าน นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บลจ. ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่าการลงทุนในตลาดหุ้นยังคงน่าสนใจ เพราะนอกเหนือจากสภาพคล่องที่ล้นระบบแล้ว ถ้าพิจารณาถึงราคาหุ้นพบว่าราคาหุ้นทั่วโลกถูกเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา รวมทั้งอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่าการฝากเงิน
บลจ.แนะหุ้นไทย-เอเชีย
นางโชติกา กล่าวอีกว่า กองทุนหุ้นที่น่าสนใจลงทุนของบริษัทในช่วงนี้จะเป็นกองทุนประเภทกองทุนรวมหุ้นระยะยาว รวมถึงกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปันผล (SCBDV) ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีสูงถึง 32.27% กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (SCBSE) ให้ผลตอบแทนที่ 29.81% เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง (Growth stocks) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET BANKING SECTOR INDEX (SCB BANKING) ซึ่งเป็นกองทุนหนึ่งเดียวในตลาดกองทุนรวมที่เป็นช่องทางการลงทุนโดยเน้นเฉพาะหุ้นในกลุ่มของธนาคารเท่านั้น ทั้งนี้ให้ผลตอบแทนมากถึง 38.72% ในช่วงที่ผ่านมา
ด้านนายสาห์รัช กล่าวว่า เพื่อเป็นการตอบโจทย์การลงทุนที่กล่าวมาข้างต้น บริษัทจะทำการเปิดขายกองทุนเปิด ทิสโก้ เอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ทริกเกอร์ 9% #7 อายุโครงการประมาณ 9 เดือน โดยสามารถปิดกองคืนเงินผู้ถือหน่วยลงทุนได้ก่อนครบกำหนดหากทำกำไรได้ 9% หรือหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.90 บาท
ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายเพียงครั้งเดียว (ไอพีโอ) ในระหว่างวันที่ 9-19 ตุลาคม 2555 ซึ่งกองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) โดยผ่านหน่วยลงทุนของกองทุน Lyxor ETF MSCI AC Asia-Pacific ex Japan ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์