บลจ.กรุงไทยเตรียมจ่ายเงินปันผล 4 กองทุนอสังหาฯ ได้แก่ กองทุนอสังหาฯ ไทยคอมเมอร์เชียลอินเวสเม้นต์ กองทุนอสังหาฯ ตลาดไท กองทุนอสังหาฯ ดุสิตธานี และกองทุนอสังหาฯ รีเทลอินเวสเม้นต์ รวมกันกว่า 351 ล้านบาท นักลงทุนเฮรับเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 กันยายนนี้ โดยจะปิดสมุดทะเบียนพักโอนหน่วยลงทุนในวันที่ 5 กันยายน 2555
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารของบริษัทจำนวน 4 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยคอมเมอร์เชียลอินเวสเม้นต์ (TCIF) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.25 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 5 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2555 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2555 โดยคิดเป็นผลตอบแทนต่อมูลค่าที่ตราไว้เท่ากับ 5.03% รวมเป็นเงินที่จ่าย 49 ล้านบาท กองทุน TCIF มีมูลค่าของโครงการ 1,960 ล้านบาท ลงทุนในอาคารสำนักงานเนชั่นทาวเวอร์ ซึ่งเป็นรูปแบบ Freehold ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 9 ไร่ มีทำเลที่ตั้งบนถนนบางนา-ตราด กม.ที่ 4
กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท (TTLPF ) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.38 บาทต่อหน่วย เป็นการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 7 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2555 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2555 โดยคิดเป็นผลตอบแทนต่อมูลค่าที่ตราไว้เท่ากับ 15.44% รวมจำนวนเงินที่จ่าย 68.40 ล้านบาท กองทุน TTLPF เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กองแรกของประเทศไทยที่ลงทุนในศูนย์จำหน่ายสินค้าทางการเกษตรขนาดใหญ่ มีมูลค่าของโครงการ 1,782 ล้านบาท ลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารบางส่วนในโครงการตลาดไท ระยะเวลา 20 ปี
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (DTCPF) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.37 บาทต่อหน่วย เป็นการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 3 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2555 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2555 คิดเป็นผลตอบแทนต่อมูลค่าที่ตราไว้เท่ากับ 7.44% รวมจำนวนเงินที่จ่าย 151.47 ล้านบาท กองทุน DTCPF มีมูลค่าโครงการ 4,094 ล้านบาท ลงทุนในโรงแรมและรีสอร์ตของเครือดุสิตทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ที่ภูเก็ต โรงแรมดุสิตดีทู ในเชียงใหม่ และโรงแรมดุสิตธานี ในชะอำ/หัวหิน โดยมีนโยบายลงทุนที่ผสมผสานระหว่าง Freehold กับ Leasehold
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทลอินเวสเม้นต์ (TRIF) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.33 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 2 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2555 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2555 คิดเป็นผลตอบแทนต่อมูลค่าที่ตราไว้เท่ากับ 6.64% รวมจำนวนเงินที่จ่าย 82.17 ล้านบาท กองทุน TRIF เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กองแรกในประเภทศูนย์การค้าที่ลงทุนในลักษณะ Freehold โดยลงทุนในโครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซา งามวงศ์วาน มีมูลค่าของโครงการ 2,490 ล้านบาท
นายสมชัย กล่าวต่อว่า ทั้ง 4 กองทุนจะกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน 2555 นี้ และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 14 กันยายนนี้ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 351 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากผลการดำเนินงานของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และเหมาะต่อสถานการณ์การลงทุนในขณะนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ และอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ในระดับที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับผลตอบแทนจากการฝากเงินในธนาคารพาณิชย์ และโดยธรรมชาติแล้วมีรายได้จากค่าเช่าจะมีลักษณะที่เติบโตตามอัตราเงินเฟ้อ จึงเป็นการลงทุนที่สามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อได้อีกด้วย