คอลัมน์ Design
โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด
www.ingfunds.co.th
บลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกในปีครึ่งปีหลังของปี 2012 จะเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางภาวะความไม่แน่นอนเกี่ยวกับปัญหาวิกฤติหนี้ของยุโรป รวมถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา แต่หากพิจารณาภาพรวมนับว่าเศรษฐกิจโดยรวมทรงตัว โดยการลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่และภูมิภาคเอเชียยังคงเป็นกลุ่มประเทศที่ได้รับความสนใจในการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากการที่มีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับประเทศสหรัฐฯ และกลุ่มยูโรโซน
ทิศทางเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้ประมาณ 5.5%-6% ในปี 2012 ตามที่ทาง ธปท. และสำนักงานคณะกรรมการทางเศรษฐกิจและสังคมประมาณการณ์ไว้ (พฤษภาคม 2012) โดยมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยภายหลังวิกฤตน้ำท่วมทั้งการลงทุนโดยภาครัฐและการฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะฟื้นตัวได้เต็มที่ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ คาดว่าแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังจะมาจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนในประเทศ โดยเห็นได้จากกิจกรรมการลงทุนเพื่อทดแทนเครื่องจักรและสิ่งปลูกสร้างที่เสียหายจากภาวะน้ำท่วมเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การบริโภคมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ด้านการลงทุนภาครัฐ มาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังภาวะอุทกภัยครั้งใหญ่ในปีที่ผ่านมา จากการผ่านงบประมาณ 3.5 แสนล้านบาท และแผนลงทุนระยะยาวสำหรับโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท ประเด็นที่ต้องจับตามองคือ ประเด็นทางการเมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการบริโภคและการลงทุน
แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลังจะผันผวนค่อนข้างมากเนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศสำคัญๆ ในโลก แต่ในขณะเดียวกันนักลงทุนจะมีความคาดหวังต่อนโยบายต่างๆ ที่จะมีการออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ ได้แก่ การให้เงินกู้กับธนาคารยุโรปที่มีปัญหา ความคาดหวังในการออก QE3 ของประเทศสหรัฐฯ รวมทั้งการคาดการณ์ว่าประเทศจีนอาจจะมีการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จะมีความอ่อนไหวต่อกระแสข่าวทั้งในด้านบวกและด้านลบที่จะเกิดขึ้น สำหรับประเทศกรีซ เชื่อว่าถ้าจะต้องออกจากกลุ่มประเทศยุโรป จะเป็นการออกแบบมีการเตรียมพร้อมการรับมือให้มีผลกระทบ (Contagion Effect) น้อยที่สุด
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังเป็นตลาดหุ้นที่อยู่ในกลุ่มที่สนใจลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้มาจากการคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยจะมีอัตราการเติบโตของกำไร (EPS-Earning per Share) ร้อยละ 27* ในปี 2012 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากทั้งการขยายตัวของรายได้ของประชาชน การอุดหนุนอย่างต่อเนื่องของภาครัฐ และผลจากการลดภาษีของนิติบุคคลจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 23 และเมื่อเข้าสู่ครึ่งปีหลังนักลงทุนจะเริ่มมองไปถึงการคาดการณ์ของผลประกอบการปี 2013 ที่คาดว่าน่าจะมีการเติบโตของผลประกอบการต่อเนื่องอีกประมาณร้อยละ 14.6* ในเชิงของระดับราคา ในปัจจุบัน อัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ของ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ในปี 2012 อยู่ที่ 11.1 เท่า ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับระดับ P/E เฉลี่ยของภูมิภาค* และยังมิได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตของตลาดหลักทรัพย์ไทย (* ข้อมูลจาก Bloomberg Consensus, 8 มิถุนายน 2012)
กล่าวโดยสรุป ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลังของปี 2012 ยังน่าลงทุน จากความต่อเนื่องของมาตรการภาครัฐและการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำท่วมที่จะเริ่มเห็นผลอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง การบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนที่เป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ การขยายตัวของกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนที่ยังโตต่อเนื่อง และมูลค่าหุ้นที่ถูกจะเป็นสิ่งจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติยังคงให้ความสนใจในตลาดหุ้นไทย โดยปัจจัยเสี่ยงยังคงมาจากภายนอกประเทศเป็นหลัก ทั้งปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศกลุ่มยูโรและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในครึ่งปีหลังของปี 2012 เรายังคงแนะนำให้นักลงทุนมองหาการลงทุนที่สามารถเพิ่มผลตอบแทนได้โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนที่มีความยืดหยุ่นในการลงทุนระหว่างหุ้นและตราสารหนี้ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการลงทุนในแต่ละขณะ เพราะเรามองว่าการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ยังคงมีความผันผวนเป็นระยะ ดังนั้น การเลือกการลงทุนที่สามารถปรับสัดส่วนการลงทุน (Portfolio Rebalancing) ได้ จะทำให้ลดความเสี่ยงในการลงทุนได้ดีในภาวะที่ตลาดไม่เอื้ออำนวย และสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในภาวะที่ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น กองทุนเปิดไอเอ็นจีไทยบาลานซ์ฟันด์ และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย มิกซ์ 15/85 ปันผล
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนรวมเตรียมพบกับเทศกาล ตลาดนัดกองทุนรวม : Mutual Fund Fair @ Central World พบกับ บลจ.ชั้นนำ 18 แห่งที่จะมาให้คำปรึกษาและบริการด้านการลงทุน พร้อมโปรโมชั่นต่างๆ มากมาย และร่วมฟังสัมมนาเจาะลึกกับผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ ตลอด 4 วัน งานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5 - 8 ก.ค. 2555 เวลา 10.00 - 20.00 น. บริเวณ ชั้น 1 Eden Zone ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์