บลจ.ซีไอเอ็มบีเผยบริษัทจดทะเบียนปีนี้อาจโตเพิ่มอีก 20% ส่วนปีหน้าอีก 25% มองหุ้นกลุ่มสื่อสาร-คมนาคม และกลุ่มค้าปลีกยังแข็งแกร่ง ขณะที่ บลจ.ไอเอ็นจีส่องหุ้นไทยไปไกลถึง1,300-1,350 จุด ล่าสุดส่งกองทุน “ไอเอ็นจี ไทย ทริกเกอร์ 10%” เปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 5 มิถุนายน 2555
นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยถือว่ายังมีราคาที่ไม่ถูกและไม่แพงจนเกินไป นักลงทุนยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย ซึ่งเมื่อดูในช่วงต้นปีที่ผ่านมาหุ้นไทยเพิ่มขึ้นมาประมาณ 25% มีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาหุ้นไทยน่าจะมีผลตอบแทนไว้ที่ประมาณ 10-20% แต่ปัจจุบันได้ปรับเพิ่มเป็น 15-30% แล้ว ถ้ามองตัวเลขการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนในปีนี้เป็นตัวเลขกลมๆ ที่ประมาณ 100 บาท ที่ระดับดัชนีปัจจุบันซื้อขายที่พีอีประมาณ 12 เท่า หรือประมาณ 1,200 จุด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจัยภายนอกประเทศยังเกื้อหนุนแม้เศรษฐกิจยุโรปจะไม่ค่อยดี แต่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังโตต่อเนื่อง จีนเองก็ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ในระดับ 7-8% ตลาดหุ้นไทยก็มีโอกาสได้มากกว่านี้อีก
“ถ้ามองในระยะยาวตลาดหุ้นไทยยังมีความแข็งแกร่ง ทั้งเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะเติบโตในปีนี้ 15-20% และปีหน้า 25% ขณะที่ภูมิภาคเติบโต 10% จึงประเมินหุ้นไทยจะให้ผลตอบแทนปีนี้ 15-30% ซึ่งเป็นช่วงจังหวะเหมาะที่นักลงทุนเข้าไปลงทุนมากที่สุด เนื่องจากดัชนีหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก ซึ่งหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจบริษัทยังคงให้น้ำหนักไปยังกลุ่มธนาคาร กลุ่มสื่อสาร-คมนาคม และกลุ่มค้าปลีก เพราะมองว่ายังเติบโตไปได้อีก”
ทางด้านนายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) มองว่า ตลาดหุ้นไทยยังมี Valuation ที่ถูกและยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ค่า Forward P/E ของตลาดหุ้นไทยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ 11.1 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E ของตลาดหุ้นกลุ่มประเทศในภูมิภาค (Indonesia P/E 13.2 เท่า, Malaysia P/E 14.0 เท่า และ Philippines P/E 16.2 เท่า, ที่มา: GS 18 พฤษภาคม 2555) ประกอบกับสำนักวิจัยหลายแห่งได้ปรับเพิ่มเป้าหมาย SET Index ในปี 2012 ว่า SET Index อาจจะปรับตัวขึ้นสู่ช่วงระดับ 1,300-1,350 จุด ที่ P/E 13-13.5 เท่า เมื่อเทียบกับ SET Index ณ ปัจจุบันที่ระดับ 1,125.78 จุด (ณ 24 พ.ค. 2012) จะมี Upside potential อีกประมาณ 15-20% จึงมองเป็นโอกาสของการลงทุนในตลาดหุ้น
ขณะเดียวกัน ในปัจจุบันระดับราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลดลงในปัจจุบันมาอยู่ที่ระดับ 89.90 USD/Barrel ช่วยลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อภายในประเทศลงได้ในระดับหนึ่ง คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะได้รับอานิสงส์จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่เหลือของปี ทั้งนี้ มองว่าระดับอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันเป็นอัตราที่เหมาะสมกับการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ โดยคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยอยู่ที่ระดับ 6% ในปี 2555
ทั้งนี้ บลจ.ไอเอ็นจีได้เปิดขายกองทุนเปิด “ไอเอ็นจี ไทย ทริกเกอร์ 10% (5)” ING Thai Trigger 10% Fund (5) ซึ่งจะลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการดี และมีแนวโน้มการเติบโตสูง และเน้นการใช้เทคนิคเรื่องการเข้า-ออกตลาดในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนตามเป้าหมาย โดยเปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 5 มิถุนายน 2555