บลจ.ทิสโก้ ส่ง"ทิสโก้ เอเชีย ลีดเดอร์ ทริกเกอร์ 10%" กองที่ 5 ลุยตลาดหุ้นเอเชีย หลังราคาปรับตัวลง จากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก มั่นใจพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ดันผลตอบแทนเข้าเป้า 10% ภานใน 4 เดือน ขายไอพีโอถึง 10 กุมภาพันธ์นี้
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ทิสโก้เตรียมเปิดขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ เอเชีย ลีดเดอร์ ทริกเกอร์ 10% # 5” (TISCO Asia Leader Trigger 10% Fund #5) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) โดยเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงหรือสิงคโปร์
โดยกองทุนดังกล่าว มีนโยบายลงทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีหุ้นของประเทศในภูมิภาคเอเชียชั้นนำ 5 ประเทศ อันได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ ตั้งเป้าทำกำไรที่ 10% ภายในระยะเวลาประมาณ 4 เดือน โดยสามารถปิดกองคืนเงินผู้ถือหน่วยลงทุนได้ก่อนครบกำหนดหากทำกำไรได้ 10% หรือหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 11.000 บาท โดยมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ซื้อขั้นต่ำ 20,000 บาท โดยจะเสนอขายเพียงครั้งเดียว (ไอพีโอ) ในระหว่างวันที่ 2 - 10 กุมภาพันธ์ 2555 นี้
นายธีรนาถ กล่าวว่า การเสนอขายกอง ทิสโก้ เอเชีย ลีดเดอร์ ทริกเกอร์ 10% กองที่ 5 ในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการรองรับความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีแนวโน้มการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจที่สดใส มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นแรงหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก
TISCO Wealth ซึ่งเป็นบริการที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนอย่างครบวงจรของกลุ่มทิสโก้ มองว่า การลงทุนในตลาดต่างประเทศปี 2012 คาดว่าจะยังคงมีความผันผวน แต่อยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้นโดยส่วนใหญ่ปรับลดลงมามากแล้วในปีที่ผ่านมา โดยมีประเด็นหลักที่ส่งผลต่อการลงทุนในปีนี้ ได้แก่ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต้องจับตานโยบายการคลังและแผนกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนการเลือกตั้ง และปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป ด้านเศรษฐกิจของจีน รวมถึงประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียโดยรวม ก็มีแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวลงตามเศรษฐกิจของโลก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ตลาดฯ เกิดความกังวลและปรับตัวลดลง TISCO Wealth มองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุนตลาดหุ้นที่มีความปลอดภัย แข็งแกร่ง และคาดว่าได้ผลตอบแทน Outperform ตลาดหุ้นอื่น ซึ่งได้แก่ตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีนและเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น)
โดยตลาดหุ้นเอเชียมีจุดเด่นคือ มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจแข็งแกร่ง โดยเฉพาะประเทศจีนที่เศรษฐกิจโดยรวมยังมีการขยายตัวในอัตราที่สูง และปัญหาเงินเฟ้อคลี่คลายอย่างชัดเจน จึงเชื่อว่าเศรษฐกิจจีนยังคงมีแนวโน้มที่ดี ประกอบกับตลาดหุ้นเอเชียปัจจุบันมีราคาปรับลดลงถูกว่าปกติ โดย trade ด้วย valuation ที่ถูกมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต
นอกจากนี้ ยัง trade ที่ discount จากประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งๆ ที่พื้นฐานดีกว่า โดย trade ที่ forward P/E ปี 2012 ที่เฉลี่ยประมาณ 10-11 เท่า ต่ำกว่าสหรัฐฯ ซึ่ง trade ที่ forward P/E ปี 2012 ร่วม 12 เท่า ทั้งๆ ที่ EPS growth ของเอเชียและสหรัฐฯ อยู่ในระดับใกล้เคียงกันที่ประมาณ 10% จึงเป็นแรงจูงใจอีกประการหนึ่งที่จะดึงดูดให้นักลงทุนกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย โดยคาดว่าผลตอบแทนจะ Outperform อย่างต่อเนื่องจากพื้นฐานอันแข็งแกร่ง