บลจ.ธนชาต ชี้ 3 ปัจจัยกดดอกเบี้ยลง สอดรับแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศหลังน้ำท่วม ล่าสุด ส่งกองทุน 6 เดือนรองรับเงินนักลงทุน เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ เสนอขายถึง 30 มกราคมนี้
นายวิศิษฐ์ ชื่นรัตนกุล ผู้จัดการกองทุนอาวุโส กองทุนตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า จากประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของไทยในช่วงครึ่งปีแรกพบว่ายังไม่มีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจัยสำคัญ 3 ประการ คือ อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังจำเป็นต้องอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะ เพื่อให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังภาวะน้ำท่วมไม่สะดุดลง และยังช่วยลดแรงกดดันไม่ให้เงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไป
ประการที่สอง คือ อัตราดอกเบี้ยสำคัญๆ ของโลกยังมีโอกาสที่จะอ่อนตัวลง โดยเฉพาะดอกเบี้ยของประเทศในแถบเอเชีย หลังจากที่เราเห็นสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจชัดเจนขึ้น จึงยังไม่มีแรงกดดันจากต่างประเทศมากดดันให้ดอกเบี้ยไทยต้องปรับเพิ่มขึ้น
ประการสุดท้าย เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงในปีนี้ จากปัญหาหนี้ในยุโรปและการรัดเข็มขัดของทางการจีน และข้อจำกัดในการเบิกจ่ายงบประมาณในประเทศ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทย การใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำก็จะเข้ามาช่วยดูแลความเสี่ยงดังกล่าวได้
ทั้งนี้ บลจ. ธนชาต เห็นโอกาสที่ผู้ลงทุนจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ ในระหว่างที่อัตราดอกเบี้ยยังมีแนวโน้มที่จะไม่เพิ่มขึ้นนี้ จึงเสนอขาย กองทุนเปิดธนชาต Fixed Income 7 (TFixedIncome7) ระยะเวลาลงทุนประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 3.2% ต่อปี ตั้งเป้าลงทุนในเงินฝากสกุลเงิน Arab Emirates Dirham ธนาคาร Union National Bank / ธนาคาร First Gulf Bank ประมาณ 22% ลงทุนในเงินฝากสกุลเงินหยวน ธนาคาร Bank of China ประมาณ 22% ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ธนาคาร ICBC (Asia) / ธนาคาร Shinhan Bank ประมาณ 20%
นายวิศิษฐ์ ชื่นรัตนกุล ผู้จัดการกองทุนอาวุโส กองทุนตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า จากประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของไทยในช่วงครึ่งปีแรกพบว่ายังไม่มีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจัยสำคัญ 3 ประการ คือ อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังจำเป็นต้องอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะ เพื่อให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังภาวะน้ำท่วมไม่สะดุดลง และยังช่วยลดแรงกดดันไม่ให้เงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไป
ประการที่สอง คือ อัตราดอกเบี้ยสำคัญๆ ของโลกยังมีโอกาสที่จะอ่อนตัวลง โดยเฉพาะดอกเบี้ยของประเทศในแถบเอเชีย หลังจากที่เราเห็นสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจชัดเจนขึ้น จึงยังไม่มีแรงกดดันจากต่างประเทศมากดดันให้ดอกเบี้ยไทยต้องปรับเพิ่มขึ้น
ประการสุดท้าย เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงในปีนี้ จากปัญหาหนี้ในยุโรปและการรัดเข็มขัดของทางการจีน และข้อจำกัดในการเบิกจ่ายงบประมาณในประเทศ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทย การใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำก็จะเข้ามาช่วยดูแลความเสี่ยงดังกล่าวได้
ทั้งนี้ บลจ. ธนชาต เห็นโอกาสที่ผู้ลงทุนจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ ในระหว่างที่อัตราดอกเบี้ยยังมีแนวโน้มที่จะไม่เพิ่มขึ้นนี้ จึงเสนอขาย กองทุนเปิดธนชาต Fixed Income 7 (TFixedIncome7) ระยะเวลาลงทุนประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 3.2% ต่อปี ตั้งเป้าลงทุนในเงินฝากสกุลเงิน Arab Emirates Dirham ธนาคาร Union National Bank / ธนาคาร First Gulf Bank ประมาณ 22% ลงทุนในเงินฝากสกุลเงินหยวน ธนาคาร Bank of China ประมาณ 22% ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ธนาคาร ICBC (Asia) / ธนาคาร Shinhan Bank ประมาณ 20%