xs
xsm
sm
md
lg

จับตาแรงขายLTFกดหุ้นไทย ชี้ราคาน้ำมัน-ทองคำยังปรับขาขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.แอสเซทพลัสคาดหุ้นไทยครึ่งเดือนเคลื่อนไหว 1,020-1,060 จุด ตามทิศทางต่างประเทศ แต่หวั่นแรงขายแอลทีเอฟกดดัน พร้อมคาดทองคำ-น้ำมันยังดีปรับตัวขึ้นอีก ส่วนตราสารหนี้ยังทรงระดับต่ำตามอัตราดอกเบี้ย

รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) แอสเซทพลัส เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งเดือนแรก(4 ม.ค.-13 ม.ค.54) คาดว่าดัชนีหุ้นไทย(SET Index)จะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางของตลาดต่างประเทศในกรอบ 1,020-1,060 จุด อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจในเดือน พ.ย.ยังส่งสัญญาณชะลอตัวลงเป็นเดือนที่ 3 โดยเฉพาะการส่งออกที่หดตัวถึง13.1% ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน พ.ย. อยู่ที่ระดับ 39.0 เพิ่มขึ้นจาก 36.7 ในเดือน ต.ค. แต่ดัชนีความเชื่อมั่นยังคงต่ำกว่า 50 นอกจากนี้ แรงขายอันเนื่องมาจากการไถ่ถอนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) อาจทำให้ตลาดหุ้นไม่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้มากนัก

ขณะที่ภาวะตลาดตราสารหนี้ในสองสัปดาห์นี้คาดว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะยาวจะผันผวน โดยปัจจัยการออกพันธบัตรเพิ่มเป็นหลัก ในส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นน่าจะทรงตัวในระดับต่ำจากแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งหนึ่งในเดือนมกราคม 2555
ส่วนแนวโน้มราคาทองคำและราคาน้ำมันเชื่อว่าจะปรับเพิ่มขึ้นได้ โดยราคาทองคำน่าจะสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ในระยะสั้น จากปริมาณการซื้อทองคำของธนาคารกลางประเทศต่างๆ ได้แก่ ตุรกี รัสเซีย เม็กซิโก และกรีซที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หาก

ราคาทองคำสามารถยืนอยู่ที่ระดับ 1,620 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อาจส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรออกไปบ้าง และคาดว่าจะมีการขายทำกำไรอีกรอบเมื่อราคาอยู่ที่ระดับ 1,670-1,680 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทั้งนี้ สำหรับแนวโน้มราคาทองคำ ในภาพใหญ่ยังเป็นขาลง โดยมีแนวต้านสำ คัญในกรอบ1,670 -1,680 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ขณะที่ราคาน้ำมัน ราคาน้ำมัน สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ จากระดับปัจจุบันที่ 103.01ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจาก อิหร่านได้ออกมาขู่ว่าจะปิดช่องแคบฮอร์มุส(Hormuz) ซึ่งเป็นช่องทางขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางไปยังประเทศอื่นๆคิดเป็น 40% ของปริมาณน้ำมันทั้งหมดของโลก หลังจากที่สหรัฐฯ คว่ำบาตรทางการเงินอิหร่านจากปัญหาการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งนี้ คาดว่า หากราคาน้ำมันสามารถปรับตัวขึ้นอยู่ในกรอบ 105 - 108 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะส่งผลให้มีแรงขายทำกำไร โดยมองแนวรับที่ 94-96 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาน้ำมัน ในขณะนี้ยังเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแนวรับและแนวต้านดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น