บลจ.ทหารไทย แย้ม แผนจัดพอร์ตลงทุน ระยะยาวขึ้น 2- 3 ปี ตอบโจทย์การลงทุนที่มั่นคงพร้อมๆไปกับการให้ความรู้ แม้ผันผวนบ้างแต่ให้ผลตอบแทนที่ดี เผย ธุรกิจกองสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทจะเติบโตขึ้น จาก Employee choice ระบบที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM)ในปีนี้ไม่ได้เติบโตขึ้นมากแต่หากไม่นับกองพันธบัตรเกาหลีที่ครบอายุ บริษัทยังมีการเติบโตประมาณ 7 - 8 พันล้านบาท โดย AUM ล่าสุดในเดือนธันวาคมอยู่ที่ประมาณ 126,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในส่วนของพอร์ตการลงทุนยังแข็งแรงสำหรับเป็นฐานการลงทุนในลักษณะที่ยาวขึ้นเช่น การลงทุนกองทุน โกลบอลบอนด์ ฟันด์ ซึ่งเป็นแนวทางการลงทุนของ บลจ. ทหารไทย ที่ต้องการขยับการลงทุนออกไปให้เป็นการลงทุนที่ยาวขึ้น ประมาณ 2-3 ปี นอกเหนือจากการลงทุนเพียงแต่ในกองทุนมันนี่มาร์ตเก็ต โดยที่บริษัทกำลังมองหาโปรดักส์การลงทุนในรูปแบบนี้ต่อไป พร้อมๆกับการให้ความรู้แก่นักลงทุน ซึ่งแม้ว่าจะมีผันผวนผันบ้างแต่ก็ให้ผลตอบแทนที่ดี
ทั้งนี้มองว่า การลงทุนไม่ควรก้าวกระโดดแต่ควรจะมีความมั่นคงและก้าวไปพร้อมๆกับนักลงทุน และให้ความรู้แก่นักลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการลงทุนและลดการขาดทุน ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญของ บลจ.ทหารไทย ดังนั้นโปรดักส์ในการลงทุนก็จะต้องเป็นไปตามเป้าหมายของการลงทุนดังกล่าว
นายสมจินต์ ยังกล่าวถึงของแนวโน้มของกองทุน สำรองเลี้ยงชีพด้วยว่า ในปีหน้ากองทุนสำร้องเลี้ยงชีพจะเป็นธุรกิอจของบริษทน่าจะเติบโตขึ้นด้วยระบบ Employee choice ซึ่งเป็นระบบที่ดีที่สุดที่บลจ.ทหารไทยมีและได้รับความไว้วางใจจากบริษัทต่างๆ ขณะเดียวกันลูกจ้างในบริษัทก็เป็นกลุ่มที่มีความรู้ความเข้าใจในการลงทุนที่มากที่สุด ดังนั้นเชื่อว่าในอนาคตกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะเติบโตขึ้นได้
ขณะเดียวกันสิ่งที่สำคัญคือ การมีสมาชิกคณะกรรมการของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีความเข้าในในการลงทุนในกองทุนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ตอบวัตถุประสงส์ของการลงทุนในยามเกษียญอายุ
"เชื่อว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะเป็นแกนหลักในการใช้เงินในยามเกษียญอายุซึ่งสมาชิกสามารถดูแลพอร์ตการลงทุนของตนเองได้ ดังนั้นบริษัทจึงเชื่อมั่นในความรู้ความเข้าใจของนักลงทุนและระบบ Employee choice บลจ. ทหารไทยเอง" นายสมจินต์ กล่าว
รางวัล SET AWARDS 2011
นอกจากนี้ นายสมจินต์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล SET AWARDS 2011 ประเภทรางวัลบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนยอดเยี่ยม (Asset Management Company Awards) ประจำปี 2554 ซึ่งจัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และวารสารการเงินธนาคาร โดยแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ต่อการเสริมสร้างและส่งเสริมเจตนารมณ์ในการเป็น “คู่ชีวิตผู้ลงทุน” โดยที่ผ่านมาบริษัทได้รับรางวัลดีเด่นมาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายปีและได้รับรางวัลยอดเยี่ยมที่หนึ่งในปี 2011 นี้ ซึ่งนับเป็นก้าวย่างที่มั่นคงอันสำคัญของบริษัทฯ
โดยในช่วงที่ผ่านมา บลจ.ทหารไทย มีจุดแข็งหลายด้าน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุนอย่างระมัดระวัง การเป็นผู้นำทางด้าน Passive Investment ที่มีหลักการ เข้าใจง่าย มีต้นทุนค่าใช้จ่ายอันเหมาะสม และยังคงไว้ซึ่งผลการดำเนินงานของกองทุนที่ดีในระดับแนวหน้าของประเทศ ซึ่งได้สอดคล้องเป็นอย่างดีกับเกณฑ์การตัดสินรางวัลของ SET Awards ใน ส่วนของบริษัทจัดการกองทุน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การพิจารณาผลตอบแทนจากการดำเนินงานของกองทุนภายใต้การ จัดการเมื่อเทียบกับค่าความเสี่ยง การเติมเต็มทางเลือกในการลงทุนให้ผู้ลงทุน ความสามารถในการระดมทุนจากการขายหน่วยลงทุน รวมถึงการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม นั่นเอง” ดร.สมจินต์ กล่าว
“ปี 2554 และจะต่อเนื่องในปี 2555 ถือเป็นปีแห่งการสริมสร้างมูลค่าเพิ่มและความพอใจสูงสุดให้กับผู้ลงทุนและ ลูกค้าในทุกกลุ่ม โดยบริษัทฯจะเสริมสร้างจุดแข็งที่มีอยู่ และเติมเต็มด้วยการมุ่งมั่นพัฒนาระบบและเพิ่มประสิทธิภาพของการบริการในรูป แบบใหม่ๆเพื่อรองรับธุรกรรมกองทุนรวมโดยปกติ และธุรกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ส่งเสริมความร่วมมืออย่างแข็งขันกับธนาคารทหารไทยและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อการเติบโตไปอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืนควบคู่ไปกับผู้ถือหน่วยบริษัทฯ” นายสมจินต์ กล่าว
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM)ในปีนี้ไม่ได้เติบโตขึ้นมากแต่หากไม่นับกองพันธบัตรเกาหลีที่ครบอายุ บริษัทยังมีการเติบโตประมาณ 7 - 8 พันล้านบาท โดย AUM ล่าสุดในเดือนธันวาคมอยู่ที่ประมาณ 126,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในส่วนของพอร์ตการลงทุนยังแข็งแรงสำหรับเป็นฐานการลงทุนในลักษณะที่ยาวขึ้นเช่น การลงทุนกองทุน โกลบอลบอนด์ ฟันด์ ซึ่งเป็นแนวทางการลงทุนของ บลจ. ทหารไทย ที่ต้องการขยับการลงทุนออกไปให้เป็นการลงทุนที่ยาวขึ้น ประมาณ 2-3 ปี นอกเหนือจากการลงทุนเพียงแต่ในกองทุนมันนี่มาร์ตเก็ต โดยที่บริษัทกำลังมองหาโปรดักส์การลงทุนในรูปแบบนี้ต่อไป พร้อมๆกับการให้ความรู้แก่นักลงทุน ซึ่งแม้ว่าจะมีผันผวนผันบ้างแต่ก็ให้ผลตอบแทนที่ดี
ทั้งนี้มองว่า การลงทุนไม่ควรก้าวกระโดดแต่ควรจะมีความมั่นคงและก้าวไปพร้อมๆกับนักลงทุน และให้ความรู้แก่นักลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการลงทุนและลดการขาดทุน ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญของ บลจ.ทหารไทย ดังนั้นโปรดักส์ในการลงทุนก็จะต้องเป็นไปตามเป้าหมายของการลงทุนดังกล่าว
นายสมจินต์ ยังกล่าวถึงของแนวโน้มของกองทุน สำรองเลี้ยงชีพด้วยว่า ในปีหน้ากองทุนสำร้องเลี้ยงชีพจะเป็นธุรกิอจของบริษทน่าจะเติบโตขึ้นด้วยระบบ Employee choice ซึ่งเป็นระบบที่ดีที่สุดที่บลจ.ทหารไทยมีและได้รับความไว้วางใจจากบริษัทต่างๆ ขณะเดียวกันลูกจ้างในบริษัทก็เป็นกลุ่มที่มีความรู้ความเข้าใจในการลงทุนที่มากที่สุด ดังนั้นเชื่อว่าในอนาคตกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะเติบโตขึ้นได้
ขณะเดียวกันสิ่งที่สำคัญคือ การมีสมาชิกคณะกรรมการของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีความเข้าในในการลงทุนในกองทุนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ตอบวัตถุประสงส์ของการลงทุนในยามเกษียญอายุ
"เชื่อว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะเป็นแกนหลักในการใช้เงินในยามเกษียญอายุซึ่งสมาชิกสามารถดูแลพอร์ตการลงทุนของตนเองได้ ดังนั้นบริษัทจึงเชื่อมั่นในความรู้ความเข้าใจของนักลงทุนและระบบ Employee choice บลจ. ทหารไทยเอง" นายสมจินต์ กล่าว
รางวัล SET AWARDS 2011
นอกจากนี้ นายสมจินต์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล SET AWARDS 2011 ประเภทรางวัลบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนยอดเยี่ยม (Asset Management Company Awards) ประจำปี 2554 ซึ่งจัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และวารสารการเงินธนาคาร โดยแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ต่อการเสริมสร้างและส่งเสริมเจตนารมณ์ในการเป็น “คู่ชีวิตผู้ลงทุน” โดยที่ผ่านมาบริษัทได้รับรางวัลดีเด่นมาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายปีและได้รับรางวัลยอดเยี่ยมที่หนึ่งในปี 2011 นี้ ซึ่งนับเป็นก้าวย่างที่มั่นคงอันสำคัญของบริษัทฯ
โดยในช่วงที่ผ่านมา บลจ.ทหารไทย มีจุดแข็งหลายด้าน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุนอย่างระมัดระวัง การเป็นผู้นำทางด้าน Passive Investment ที่มีหลักการ เข้าใจง่าย มีต้นทุนค่าใช้จ่ายอันเหมาะสม และยังคงไว้ซึ่งผลการดำเนินงานของกองทุนที่ดีในระดับแนวหน้าของประเทศ ซึ่งได้สอดคล้องเป็นอย่างดีกับเกณฑ์การตัดสินรางวัลของ SET Awards ใน ส่วนของบริษัทจัดการกองทุน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การพิจารณาผลตอบแทนจากการดำเนินงานของกองทุนภายใต้การ จัดการเมื่อเทียบกับค่าความเสี่ยง การเติมเต็มทางเลือกในการลงทุนให้ผู้ลงทุน ความสามารถในการระดมทุนจากการขายหน่วยลงทุน รวมถึงการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม นั่นเอง” ดร.สมจินต์ กล่าว
“ปี 2554 และจะต่อเนื่องในปี 2555 ถือเป็นปีแห่งการสริมสร้างมูลค่าเพิ่มและความพอใจสูงสุดให้กับผู้ลงทุนและ ลูกค้าในทุกกลุ่ม โดยบริษัทฯจะเสริมสร้างจุดแข็งที่มีอยู่ และเติมเต็มด้วยการมุ่งมั่นพัฒนาระบบและเพิ่มประสิทธิภาพของการบริการในรูป แบบใหม่ๆเพื่อรองรับธุรกรรมกองทุนรวมโดยปกติ และธุรกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ส่งเสริมความร่วมมืออย่างแข็งขันกับธนาคารทหารไทยและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อการเติบโตไปอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืนควบคู่ไปกับผู้ถือหน่วยบริษัทฯ” นายสมจินต์ กล่าว