xs
xsm
sm
md
lg

ทิพยรุกขายผ่านไปรษณีย์-ปั๊มปตท. ควง"ทิสโก้-KTAM"เพิ่มยิลด์พอร์ตหุ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทิพยรุกขายผ่านไปรษณีย์-ปั๊มปตท.รวมกว่า 700 สาขา มั่นใจทั้งปียอดโตตามเป้า 40% พร้อมเดินหน้าบริการเสริม"เมาไม่ขับทิพยขับให้" ประเดิมให้บริการลูกค้ากรุงเทพ-หัวเมืองใหญ่ ขณะเดียวกันแจง กำไรสุทธิหดเหตุสำรองเงิน RBC เพิ่ม แต่มั่นใจสิ้นปีกำไรเพิ่มทั้งด้านการลงทุนและการรับประกัน หลังจับมือ"ทิสโก้-KTAM"ช่วยดูแลพอร์ตหุ้น

นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัททิพยประกันภัย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มตัวแทนและนายหน้าให้ได้ถึง 2,000 ราย โดยปัจจุบันสามารถเพิ่มได้แล้วจากเดิม 205 รายมาอยู่ที่ 850 ราย นอกจากนี้บริษัทยังประสบความสำเร็จในการร่วมมือกับบริษัทไปรษณีย์ไทยในการนำสินค้าไปขายผ่านสาขาของไปรษณีย์กว่า 400 สาขาในช่วงไตรมาส 4 ของปี รวมถึงความร่วมมือในการขายผ่านปั๊มน้ำมันปตท. 222 จุดและปั๊มแก๊ส 94 จุดซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นได้ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการขายผ่านแบงก์แอสชัวร์รัน โดยจะเริ่มต้นกับทางธนาคารออกมสินเป็นแห่งแรกก่อน

ทั้งนี้ เชื่อว่าช่วงที่เหลือของปีนี้ในไตรมาสที่ 3 และ 4 จำนวนตัวแทนน่าจะเพิ่มขึ้นได้มากกว่าในช่วงที่ผ่านมา ส่วนเป้าหมายการให้บริการด้านสินไหมนำหน้าบริษัทได้เดินหน้าจัดการสินไหมในกรณีเกิดอุบัติเหตุให้รวดเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังจะมีบริการเสริมในส่วนของการประกันภัยรถยนต์ภายใต้โครงการ"เมาไม่ขับทิพยขับให้"ซึ่งน่าจะเริ่มโปรโมทได้ในช่วงเทศกาลก่อน แต่ในส่วนแรกจะเริ่มต้นที่กรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ตามภูมิภาคก่อน

ส่วนผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา นายสมพร กล่าวว่า ครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทมีเบี้ยรับรวม 5,575 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 35.5% ซึ่งมีเบี้ยรับรวม 4,115 ล้านบาท หรือประมาณ 1,469 ล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าเบี้ยรับรวมของบริษัทน่าจะเติบโตได้ตามเป้า 40%

สำหรับเบี้ยรับรวมในครึ่งปีที่ผ่านมาของบริษัทจะแบ่งเป็น เบี้ยประกันด้านอัคคีภัย 566 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 12.3% รถยนต์ 1,150 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 53% มารีน 106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113.4% และสุดท้ายจะเป็นส่วนของเบ็ดเตล็ดอยู่ที่ 3,753 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.6%

"การเติบโตของการประกันอัคคีภัยถึงแม้จะไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้แต่ก็อยู่ในแนวทางที่ดี ขณะที่ทางทะเลถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุด เพราะทำให้เป็นสินค้าสำเร็จรูปไม่ใช่ความชำนาญเฉพาะด้าน ไม่ยุ่งยากเหมือนที่ผ่านมา สาขานำเสนอไปให้ลูกค้าแต่ละภูมิภาคได้อย่างดีทำให้กลุ่มมารีนมีการเติบโตมากที่สุด ส่วนรถยนต์ถือว่าเป็นไปตามเป้าและน่าจะมีเบี้ยรวมทั้งปีอยู่ 3.5 พันล้านบาทได้"นายสมพรกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรจากการรับประกันภัยลดลง 80 ล้านบาท อยู่ที่ 218 ล้านบาทหรือลดลงประมาณ 27% ส่วนกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท อยู่ที่ 232 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 100% ส่วนกำไรสุทธิปรับตัวลดลง 32 ล้านบาทอยู่ที่ 319 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 9.2%

ทั้งนี้ สาเหตุที่กำไรสุทธิปรับตัวลดลง เนื่องจากการรับประกันภัยต้องคำนึงถึงความเสี่ยงต่างๆ ทำให้บรืษัทมีการจัดสรรสัดสวนการรับประกันภัยให้เหมาะสม ทำให้โครงสร้างเบี้ยในปีนี้จึงมีการเปลี่ยนแลงไปเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา นอกจากนี้การสำรองเงินตามเกณฑ์ RBC และการเติบโตของการประกันภัยรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นทำให้บริษัทจำเป็นที่จะต้องมีการสำรองเพิ่มมากขึ้นในตัวของพรีเมี่ยม ส่งผลให้กำไรในช่วงครึ่งปีแรกลดลง แต่เชื่อว่าในไตรมาสที่เหลือกำไรจะเพิ่มขึ้น และกำไรจากการรับประกันภัยน่าจะสูงกว่าที่ผ่านมา และอาจเป็นตัวเลขสองหลักได้

ส่วนกำไรจากการลงทุนเองก็น่าจะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากบริษัทได้มีการว่าจ้างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงไทย และทิสโก้เข้ามาดูแลในส่วนของการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์รายละ 400 ล้านบาท จากพอร์ตรวมที่มีการลงทุนในหุ้น 2,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น