โตเกียวมารีน มั่นใจทั้งปีโตตามเป้า แม้ครึ่งแรกยอดฝืดช่องทางตัวแทนกวาดเบี้ย 260 ล้านบาท ระบุครึ่งหลังเล็งอัดแคมเปญสู้ต่อ พร้อมเดินกลยุทธ์ใหม่"เวิร์คไซด์" ขายตรงพนักงานตามบริษัทมากขึ้น ยอมรับขยายช่องทางแบงก์ยาก แม้อยู่ระหว่างเจราจากับแบงก์ถึง 4 แห่งก็ตาม
นายฮิโรชิ ทาเทอิชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาถือว่าไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้ แต่ก็เชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทประกันอื่นคงไม่ดีมากนักเช่นกัน และการแข่งขันคงจะต้องดูกันในช่วงครึ่งหลังของปีนี้มากกว่า โดยเฉพาะในช่วงปลายปีกับการอัดโปชันและแคมเปญต่างๆ ของบริษัทประกันชีวิต และผลิตภัณฑ์บำนาญที่จะได้รับความสนใจมากขึ้น
"การที่เราไม่เป็นไปตามเป้า เพราะแผนของเราตั้งแบบปีต่อปีคือแบ่งเป็นครึ่งละ 50% ถ้าครึ่งนี้ได้ 45% ครึ่งหลังก็น่าจะได้ 55% โดยเชื่อว่าน่าจะปรับดีขึ้นและเป็นไปตามเป้าได้ในช่วงครึ่งหลังของปี"นายฮิโรชิกล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทสามารถสร้างเบี้ยจากช่องทางตัวแทนจำหน่ายได้ประมาณ 260 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปีน่าจะมีเบี้ยรับรวมจากช่องทางนี้ประมาณ 600 ล้านบาทโดยหลังจากนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายด้วยการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายจากเดิม 1,700 คนเป็น 2,500 คนให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มเป็น 8,000 คนให้ได้ตามแผนระยะยาว 10 ปี ซึ่งตัวแทนที่มีอยู่ขณะนี้ประมาณ 50% เป็นตัวแทนที่มีความแอคทีฟและมียอดขายเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ ยังอยู่ในระหว่างการเจรจากับธนาคารพาณิชย์ 4 เพื่อที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านธนาคาร แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะประสบความสำเร็จในข้อตกขนาดไหนและเมื่อใด
นายฮิโรชิ กล่าวอีกว่า สำหรับกลยุทธ์ที่จะนำใหม่ที่จะนำมาใช้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะเป็นกลยุทธ์ใหม่สำหรับประเทศไทย แต่นับเป็นช่องทางการจำหน่ายที่สามารถสร้างเบี้ยรับให้แก่ธุรกิจประกันมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น คือช่องทางการจำหน่ายแบบเวิร์คไซด์ โดยการเข้าไปขายให้แก่พนักงานของผ่านบริษัทที่คุ้นเคย หรือเป็นบริษัทที่มีการทำประกันกลุ่มกับเราอยู่แล้ว แต่ขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตอื่น
ทั้งนี้ เชื่อว่าช่องทางจำหน่ายดังกล่าวจะสามารถเพิ่มเบี้ยรับให้แก่บริษัทได้ แต่จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากยังเป็นช่องทางใหม่ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าช่องทางนี้น่าจะเติบโตได้ถึง 100% ในอนาคต
นายฮิโรชิ ทาเทอิชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาถือว่าไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้ แต่ก็เชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทประกันอื่นคงไม่ดีมากนักเช่นกัน และการแข่งขันคงจะต้องดูกันในช่วงครึ่งหลังของปีนี้มากกว่า โดยเฉพาะในช่วงปลายปีกับการอัดโปชันและแคมเปญต่างๆ ของบริษัทประกันชีวิต และผลิตภัณฑ์บำนาญที่จะได้รับความสนใจมากขึ้น
"การที่เราไม่เป็นไปตามเป้า เพราะแผนของเราตั้งแบบปีต่อปีคือแบ่งเป็นครึ่งละ 50% ถ้าครึ่งนี้ได้ 45% ครึ่งหลังก็น่าจะได้ 55% โดยเชื่อว่าน่าจะปรับดีขึ้นและเป็นไปตามเป้าได้ในช่วงครึ่งหลังของปี"นายฮิโรชิกล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทสามารถสร้างเบี้ยจากช่องทางตัวแทนจำหน่ายได้ประมาณ 260 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปีน่าจะมีเบี้ยรับรวมจากช่องทางนี้ประมาณ 600 ล้านบาทโดยหลังจากนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายด้วยการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายจากเดิม 1,700 คนเป็น 2,500 คนให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มเป็น 8,000 คนให้ได้ตามแผนระยะยาว 10 ปี ซึ่งตัวแทนที่มีอยู่ขณะนี้ประมาณ 50% เป็นตัวแทนที่มีความแอคทีฟและมียอดขายเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ ยังอยู่ในระหว่างการเจรจากับธนาคารพาณิชย์ 4 เพื่อที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านธนาคาร แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะประสบความสำเร็จในข้อตกขนาดไหนและเมื่อใด
นายฮิโรชิ กล่าวอีกว่า สำหรับกลยุทธ์ที่จะนำใหม่ที่จะนำมาใช้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะเป็นกลยุทธ์ใหม่สำหรับประเทศไทย แต่นับเป็นช่องทางการจำหน่ายที่สามารถสร้างเบี้ยรับให้แก่ธุรกิจประกันมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น คือช่องทางการจำหน่ายแบบเวิร์คไซด์ โดยการเข้าไปขายให้แก่พนักงานของผ่านบริษัทที่คุ้นเคย หรือเป็นบริษัทที่มีการทำประกันกลุ่มกับเราอยู่แล้ว แต่ขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตอื่น
ทั้งนี้ เชื่อว่าช่องทางจำหน่ายดังกล่าวจะสามารถเพิ่มเบี้ยรับให้แก่บริษัทได้ แต่จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากยังเป็นช่องทางใหม่ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าช่องทางนี้น่าจะเติบโตได้ถึง 100% ในอนาคต
