SCBประกันชีวิตโชว์ผลงานครึ่งปีกวาดเบี้ยรับรวมกว่า 1.45 หมื่นล้านบาท หรือโตกว่า 19% ระบุช่องทางใหม่ผ่านเทสโก้เริ่มโต แต่แบงก์แอสชัวรันส์ยังครองแชมป์ เตรียมเดินหน้ารุกครึ่งหลังต่อ ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมทั้งปีโต 26%
นายพันธ์พร ทัพพะรังสี รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมีเบี้ยรับรวม 14,555 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 19% และมีเบี้ยประกันรับปีแรกจากทุกช่องทางการขายทั้งสิ้น 5,779 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 26% และสูงกว่าเป้าหมายเดิม 17% ส่วนเบี้ยรับประกันปีต่อไป 9,654 ล้านบาท เติบโต 19%
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานดังกล่าวถือว่าสูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ โดยนับเป็นการเติบโตในทุกช่องทางการจำหน่ายโดยสายงานธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ หรือแบงก์แอสชัวรันส์ ผลิตเบี้ยประกันรับปีแรกได้สูงสุด 4,521 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 17% ขณะที่สายงานการตลาดพิเศษ ซึ่งประกอบด้วย เครดิตไลฟ์ การตลาดองค์กร การขายผ่านโทรศัพท์ และประกันกลุ่ม มีอัตราเติบโตสูงที่สุดถึง 130% และมีเบี้ยประกันรับปีแรก 620 ล้านบาท โดยประกันกลุ่มขยายตัวก้าวกระโดดถึง 656% ส่วนสายงานตัวแทนประกันชีวิต เติบโตแข็งแกร่งถึง37% ด้วยเบี้ยรับประกันปีแรก 638 ล้านบาท ขณะที่ช่องทางการขายใหม่ คือ การขายผ่านสาขาของเทสโก้ โลตัส ก็เติบโตในทิศทางที่ดีเช่นกัน
"ปัจจัยที่ทำให้บริษัทเติบโตโดดเด่นว่า เกิดจากการเพิ่มจำนวนฝ่ายขายในทุกช่องทาง ความเข้มแข็ง ความทุ่มเท และประสิทธิภาพของการฝึกอบรม ซึ่งช่วยเพิ่มพูนความรู้ ทักษะการขายใหม่ๆ และกระตุ้นให้ฝ่ายขายในทุกช่องทาง ตื่นตัวในการตอบสนองกับความต้องการที่ความแตกต่างกันของลูกค้าแต่ละกลุ่ม รวมทั้งการพัฒนาช่องทางการขายใหม่ๆ ที่เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง"นายพันธ์พรกล่าว
นายพันธ์พร กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการปรับปรุงผลตอบแทนของกรมธรรม์ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้แข่งขันได้ดียิ่งขึ้น และพัฒนากรมธรรม์ใหม่ๆ ที่ให้ผลประโยชน์ตอบแทนที่จูงใจ และมีคุณค่าสูงสุดแก่ลูกค้า ซึ่งคาดว่าเบี้ยประกันรับปีแรกของปีนี้ จะเติบโตจากปีก่อนประมาณ 12% ส่วนเบี้ยประกันรับรวมจะเพิ่มขึ้น 26% ตามเป้าหมาย
ส่วนกลยุทธ์การดำเนินงานหลังจากนี้ บริษัทจะเดินหน้าขับเคลื่อน และรักษาทิศทางการเติบโตที่ดีในช่วงครึ่งปีหลังต่อไป โดยยังมุ่งเน้นการขยายธุรกิจอย่างมีคุณภาพในทุกช่องทางการขาย และให้ความสำคัญทุกกระบวนการของธุรกิจ เริ่มตั้งแต่การสรรหาฝ่ายขาย การพัฒนากรมธรรม์ และบริการที่ดีเลิศ ตลอดจนการคัดเลือกกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการตั้งแต่งผู้บริหารเพื่อดูแลกลยุทธ์ด้านการขาย โดยตั้งแต่ง นายกิตติ รังษีสิงห์พิพัฒน์ ให้ดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Agency Officer สายงานตัวแทนประกันชีวิต โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป และนายกิตติ จะรับผิดชอบในการกำหนดกลยุทธ์ด้านการขยายงานขาย การพัฒนากลยุทธ์ตัวแทน การฝึกอบรม และบริการตัวแทน รวมทั้งการบริหารงานทั้งหมดของสายงานตัวแทนประกันชีวิต
"นายกิตติ เคยเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานการตลาด และเป็นกรรมการบริหารของ บริษัท ไอเอ็นจี ประกันชีวิต ซึ่งมีความรอบรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์หลากหลายด้านในธุรกิจประกันชีวิตมากกว่า 25 ปี ครอบคลุมทั้งด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด การพัฒนาธุรกิจใหม่ รวมทั้งการวางแผน และกลยุทธ์องค์กร ทำให้มีความเข้าใจพัฒนาการของธุรกิจประกันชีวิตอย่างลึกซึ้ง และจะมีบทบาทสำคัญในการขยายตลาด และรักษาการเติบโตที่สูงของช่องทางตัวแทนให้แก่บริษัทต่อไป"นายพันธ์พรกล่าว
นายพันธ์พร ทัพพะรังสี รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมีเบี้ยรับรวม 14,555 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 19% และมีเบี้ยประกันรับปีแรกจากทุกช่องทางการขายทั้งสิ้น 5,779 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 26% และสูงกว่าเป้าหมายเดิม 17% ส่วนเบี้ยรับประกันปีต่อไป 9,654 ล้านบาท เติบโต 19%
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานดังกล่าวถือว่าสูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ โดยนับเป็นการเติบโตในทุกช่องทางการจำหน่ายโดยสายงานธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ หรือแบงก์แอสชัวรันส์ ผลิตเบี้ยประกันรับปีแรกได้สูงสุด 4,521 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 17% ขณะที่สายงานการตลาดพิเศษ ซึ่งประกอบด้วย เครดิตไลฟ์ การตลาดองค์กร การขายผ่านโทรศัพท์ และประกันกลุ่ม มีอัตราเติบโตสูงที่สุดถึง 130% และมีเบี้ยประกันรับปีแรก 620 ล้านบาท โดยประกันกลุ่มขยายตัวก้าวกระโดดถึง 656% ส่วนสายงานตัวแทนประกันชีวิต เติบโตแข็งแกร่งถึง37% ด้วยเบี้ยรับประกันปีแรก 638 ล้านบาท ขณะที่ช่องทางการขายใหม่ คือ การขายผ่านสาขาของเทสโก้ โลตัส ก็เติบโตในทิศทางที่ดีเช่นกัน
"ปัจจัยที่ทำให้บริษัทเติบโตโดดเด่นว่า เกิดจากการเพิ่มจำนวนฝ่ายขายในทุกช่องทาง ความเข้มแข็ง ความทุ่มเท และประสิทธิภาพของการฝึกอบรม ซึ่งช่วยเพิ่มพูนความรู้ ทักษะการขายใหม่ๆ และกระตุ้นให้ฝ่ายขายในทุกช่องทาง ตื่นตัวในการตอบสนองกับความต้องการที่ความแตกต่างกันของลูกค้าแต่ละกลุ่ม รวมทั้งการพัฒนาช่องทางการขายใหม่ๆ ที่เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง"นายพันธ์พรกล่าว
นายพันธ์พร กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการปรับปรุงผลตอบแทนของกรมธรรม์ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้แข่งขันได้ดียิ่งขึ้น และพัฒนากรมธรรม์ใหม่ๆ ที่ให้ผลประโยชน์ตอบแทนที่จูงใจ และมีคุณค่าสูงสุดแก่ลูกค้า ซึ่งคาดว่าเบี้ยประกันรับปีแรกของปีนี้ จะเติบโตจากปีก่อนประมาณ 12% ส่วนเบี้ยประกันรับรวมจะเพิ่มขึ้น 26% ตามเป้าหมาย
ส่วนกลยุทธ์การดำเนินงานหลังจากนี้ บริษัทจะเดินหน้าขับเคลื่อน และรักษาทิศทางการเติบโตที่ดีในช่วงครึ่งปีหลังต่อไป โดยยังมุ่งเน้นการขยายธุรกิจอย่างมีคุณภาพในทุกช่องทางการขาย และให้ความสำคัญทุกกระบวนการของธุรกิจ เริ่มตั้งแต่การสรรหาฝ่ายขาย การพัฒนากรมธรรม์ และบริการที่ดีเลิศ ตลอดจนการคัดเลือกกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการตั้งแต่งผู้บริหารเพื่อดูแลกลยุทธ์ด้านการขาย โดยตั้งแต่ง นายกิตติ รังษีสิงห์พิพัฒน์ ให้ดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Agency Officer สายงานตัวแทนประกันชีวิต โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป และนายกิตติ จะรับผิดชอบในการกำหนดกลยุทธ์ด้านการขยายงานขาย การพัฒนากลยุทธ์ตัวแทน การฝึกอบรม และบริการตัวแทน รวมทั้งการบริหารงานทั้งหมดของสายงานตัวแทนประกันชีวิต
"นายกิตติ เคยเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานการตลาด และเป็นกรรมการบริหารของ บริษัท ไอเอ็นจี ประกันชีวิต ซึ่งมีความรอบรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์หลากหลายด้านในธุรกิจประกันชีวิตมากกว่า 25 ปี ครอบคลุมทั้งด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด การพัฒนาธุรกิจใหม่ รวมทั้งการวางแผน และกลยุทธ์องค์กร ทำให้มีความเข้าใจพัฒนาการของธุรกิจประกันชีวิตอย่างลึกซึ้ง และจะมีบทบาทสำคัญในการขยายตลาด และรักษาการเติบโตที่สูงของช่องทางตัวแทนให้แก่บริษัทต่อไป"นายพันธ์พรกล่าว
