2 กองทุนอสังหาริมทรัพย์ "ลักซ์ชัวรี่-ศาลาแอทสาทร" ยังเคลียปัญหาไม่จบ ล่าสุด กองลักซ์ชัวรี่ยังขายทอดตลาดหน่วยลงทุนที่ยึดจากป่าเกาะไม่สำเร็จ จ่อเปิดประมูลต่อ 21 ก.ค.นี้ ตั้งราคาลงอีก 10% ด้านกองศาลาแอทสาทร ยื่นชี้แจงสรรพากรขอใกล่เกลี่ย จ่อฟ้องคดีต่อศาลเพื่อเพิกถอนคำสั่งหากไม่เห็นด้วยกับคำร้อง
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) ได้แจ้งกำหนดการดำเนินการประมูลเพื่อขายทอดตลาดหน่วยลงทุนของบริษัท โรงแรม ป่าเกาะ จำกัด (ป่าเกาะ) จำนวนไม่เกิน 30 ล้านหน่วย โดยกำหนดราคาในการประมูลที่ขั้นต่ำหน่วยลงทุนละ 4.52 บาท เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 ณ ห้องประชุมชั้น 10 ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสีลม ซอย 7 เลขที่ 393 ถนนสีลมแขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร นั้น ปรากฏว่า มีผู้เข้าร่วมประมูลจำนวน 2 รายแต่ไม่มีผู้ใดเสนอราคาเพื่อประมูลหน่วยลงทุนที่นำออกประมูล
ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะดำเนินการประมูลขายทอดตลาดหน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ ที่ป่าเกาะ จำนำไว้ตามสัญญาจำนำหน่วยลงทุนเพื่อเป็นประกันในการปฎิบัติหน้าที่ตามสัญญาตกลงกระทำการ จำนวนไม่เกิน 30ล้านหน่วย ในครั้งต่อไป เพื่อนำมาชำระหนี้ตามสัญญาตกลงกระทำการจำนวน 117,779,711.02 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีรวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆในการเรียกร้องให้ป่าเกาะปฎิบัติตามสัญญาตกลงกระทำการและสัญญาจำนำหน่วยลงทุนนับจากวันที่ผิดนัด โดยกำหนดการประมูลครั้งต่อไปเป็นวันที่ 21 กรกฎาคม 2554 เริ่มเวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 10 ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสีลม ซอย 7 เลขที่ 393 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร จำนวนหน่วยที่ประมูล ไม่เกิน 30 ล้านหน่วย โดยแบ่งรายการละ 1,000,000 หน่วย จำนวนไม่เกิน 30 รายการ โดยกำหนดราคาประมูลเริ่มต้นขั้นต่ำหน่วยละ 4.07 บาทโดยประมาณ ทั้งนี้ อิงจากราคาประมูลเริ่มต้นขั้นต่ำในการประมูลครั้งที่ 5 เมื่อ วันที่ 14 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมาปรับลดราคาลงร้อยละ 10
ในขณะที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ศาลาแอทสาทร (SSPF) ว่า ตามที่สำนักงานสรรพากรได้มีหนังสือยืนยันให้บริษัทจัดการฯ ส่งมอบเงินประกันที่ บริษัท เซ็นต์หลุยส์ โฮลดิ้ง จำกัด วางไว้กับกองทุนรวมฯในจำนวนที่คงเหลืออยู่ ณ เวลาที่เจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรได้นำส่งคำสั่งอายัดคือ ณ วันที่ 15 ธันวาคม2553 พร้อมดอกผล (ถ้ามี) โดยจะต้องส่งมอบให้แก่กรมสรรพากรภายในวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 ซึ่ง ณ วันที่ 15ธันวาคม 2553 เงินประกันจำนวนดังกล่าวมียอดคงเหลืออยู่เป็นจำนวน 18,457,955.54 บาท นั้น เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 บริษัทจัดการฯ ได้จัดทำหนังสือถึงกรมสรรพากรเพื่อชี้แจงโดยมีนัยว่าข้อจำกัดและเงื่อนไขแห่งหนี้ คือ กองทุนรวมฯ มีหน้าที่ต้องคืนเงินประกันให้แก่บริษัทเซ็นต์หลุยส์ฯ เมื่อครบกำหนด 2 ปีของสัญญาตกลงกระทำการ คือ ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2554 ซึ่งต้องคืนภายหลังจากได้หักเงินส่วนต่างของรายได้ที่ไม่ถึง 25,000,000 บาทที่บริษัทเซ็นต์หลุยส์ฯ ให้ประกันไว้ตามที่ระบุไว้ในข้อ 4 ของสัญญาตกลงกระทำการ ดังนั้น สิทธิเรียกร้องของบริษัทเซ็นต์หลุยส์ฯ ตามสัญญาดังกล่าวจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 กรกฎาคม 2554 เพียงจำนวน 10,154,690 บาท ซึ่งยังไม่รวมดอกผลที่จะได้รับ โดยหากกรมสรรพากรเห็นด้วยกับนัยดังกล่าว บริษัทจัดการฯมีความยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่งและส่งมอบเงิน มิฉะนั้น บริษัทจัดการฯจำเป็นต้องและขอสงวนสิทธิที่จะฟ้องคดีต่อศาลเพื่อเพิกถอนคำสั่งของกรมสรรพากรภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทชี้แจงว่า แนวทางดำเนินการข้างต้นบริษัทจัดการ ได้ทำหน้าที่บริหารและจัดการกองทุนรวมด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด โดยยึดหลักรักษาสิทธิและประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอันถือเป็นประโยชน์ของคนจำนวนมากเป็นสำคัญและต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) ได้แจ้งกำหนดการดำเนินการประมูลเพื่อขายทอดตลาดหน่วยลงทุนของบริษัท โรงแรม ป่าเกาะ จำกัด (ป่าเกาะ) จำนวนไม่เกิน 30 ล้านหน่วย โดยกำหนดราคาในการประมูลที่ขั้นต่ำหน่วยลงทุนละ 4.52 บาท เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 ณ ห้องประชุมชั้น 10 ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสีลม ซอย 7 เลขที่ 393 ถนนสีลมแขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร นั้น ปรากฏว่า มีผู้เข้าร่วมประมูลจำนวน 2 รายแต่ไม่มีผู้ใดเสนอราคาเพื่อประมูลหน่วยลงทุนที่นำออกประมูล
ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะดำเนินการประมูลขายทอดตลาดหน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ ที่ป่าเกาะ จำนำไว้ตามสัญญาจำนำหน่วยลงทุนเพื่อเป็นประกันในการปฎิบัติหน้าที่ตามสัญญาตกลงกระทำการ จำนวนไม่เกิน 30ล้านหน่วย ในครั้งต่อไป เพื่อนำมาชำระหนี้ตามสัญญาตกลงกระทำการจำนวน 117,779,711.02 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีรวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆในการเรียกร้องให้ป่าเกาะปฎิบัติตามสัญญาตกลงกระทำการและสัญญาจำนำหน่วยลงทุนนับจากวันที่ผิดนัด โดยกำหนดการประมูลครั้งต่อไปเป็นวันที่ 21 กรกฎาคม 2554 เริ่มเวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 10 ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสีลม ซอย 7 เลขที่ 393 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร จำนวนหน่วยที่ประมูล ไม่เกิน 30 ล้านหน่วย โดยแบ่งรายการละ 1,000,000 หน่วย จำนวนไม่เกิน 30 รายการ โดยกำหนดราคาประมูลเริ่มต้นขั้นต่ำหน่วยละ 4.07 บาทโดยประมาณ ทั้งนี้ อิงจากราคาประมูลเริ่มต้นขั้นต่ำในการประมูลครั้งที่ 5 เมื่อ วันที่ 14 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมาปรับลดราคาลงร้อยละ 10
ในขณะที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ศาลาแอทสาทร (SSPF) ว่า ตามที่สำนักงานสรรพากรได้มีหนังสือยืนยันให้บริษัทจัดการฯ ส่งมอบเงินประกันที่ บริษัท เซ็นต์หลุยส์ โฮลดิ้ง จำกัด วางไว้กับกองทุนรวมฯในจำนวนที่คงเหลืออยู่ ณ เวลาที่เจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรได้นำส่งคำสั่งอายัดคือ ณ วันที่ 15 ธันวาคม2553 พร้อมดอกผล (ถ้ามี) โดยจะต้องส่งมอบให้แก่กรมสรรพากรภายในวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 ซึ่ง ณ วันที่ 15ธันวาคม 2553 เงินประกันจำนวนดังกล่าวมียอดคงเหลืออยู่เป็นจำนวน 18,457,955.54 บาท นั้น เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 บริษัทจัดการฯ ได้จัดทำหนังสือถึงกรมสรรพากรเพื่อชี้แจงโดยมีนัยว่าข้อจำกัดและเงื่อนไขแห่งหนี้ คือ กองทุนรวมฯ มีหน้าที่ต้องคืนเงินประกันให้แก่บริษัทเซ็นต์หลุยส์ฯ เมื่อครบกำหนด 2 ปีของสัญญาตกลงกระทำการ คือ ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2554 ซึ่งต้องคืนภายหลังจากได้หักเงินส่วนต่างของรายได้ที่ไม่ถึง 25,000,000 บาทที่บริษัทเซ็นต์หลุยส์ฯ ให้ประกันไว้ตามที่ระบุไว้ในข้อ 4 ของสัญญาตกลงกระทำการ ดังนั้น สิทธิเรียกร้องของบริษัทเซ็นต์หลุยส์ฯ ตามสัญญาดังกล่าวจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 กรกฎาคม 2554 เพียงจำนวน 10,154,690 บาท ซึ่งยังไม่รวมดอกผลที่จะได้รับ โดยหากกรมสรรพากรเห็นด้วยกับนัยดังกล่าว บริษัทจัดการฯมีความยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่งและส่งมอบเงิน มิฉะนั้น บริษัทจัดการฯจำเป็นต้องและขอสงวนสิทธิที่จะฟ้องคดีต่อศาลเพื่อเพิกถอนคำสั่งของกรมสรรพากรภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทชี้แจงว่า แนวทางดำเนินการข้างต้นบริษัทจัดการ ได้ทำหน้าที่บริหารและจัดการกองทุนรวมด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด โดยยึดหลักรักษาสิทธิและประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอันถือเป็นประโยชน์ของคนจำนวนมากเป็นสำคัญและต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
