ASTVผู้จัดการรายวัน-SCBนิวยอร์คไลฟ์ โชว์กำไรไตรมาสแรก เกือบ 600 ล้านบาท เหตุเบี้ยปีแรกขยายตัวเพิ่มกว่า 26% จากความแข็งแกร่งของช่องทางการขาย-กลยุทธ์การตลาด และการลงทุนที่รอบคอบ พร้อมฟันธงแนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตแข่งดุมากขึ้น หลายบริษัทรุกขยายช่องทางจำหน่าย-สินค้าเติมที่ หวังสนองความต้องการลูกค้าทุกรูปแบบ
นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินงานของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้(2554) โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 8,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,270 ล้านบาท หรือเติบโต 21.46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 6,628 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทำได้ทั้งสิ้น 596.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.36% และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 8.97 บาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 8.35 บาท โดยเป็นรายได้จากการลงทุนสิทธิ 757 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148.3 ล้านบาท เติบโต 24.36%
ทั้งนี้ ส่วนกำไรสะสม ก็ปรับเพิ่มจากสิ้นปี 2553 ซึ่งทำได้ 5,516 ล้านบาท เป็น 6,060 ล้านบาท ส่งผลให้สินทรัพย์รวมขยับจาก 66,229 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2553 เป็น 72,736 ล้านบาท ส่วนสินทรัพย์ลงทุน ปรับเพิ่มจาก 66,216 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2553 เป็น 70,748 ล้านบาท
สำหรับ ผลประกอบการในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-เมษายน) แบ่งเป็นเบี้ยปีแรก (AFYP) จากทุกช่องทางการขายทั้งสิ้น 3,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26.67% และสูงกว่าเป้าหมายถึง 17.16% โดยช่องทางตัวแทนขยายตัวสูงที่สุดถึง 56.29% และปัจจุบันบริษัท มีตัวแทนทั้งสิ้น 7,666 ราย ขณะที่แบงก์แอสชัวรันส์ ก็เติบโตแข็งแกร่ง 22.28% ส่วนช่องทางการตลาดพิเศษ ซึ่งประกอบด้วย เครดิตไลฟ์ การตลาดองค์กร การขายผ่านโทรศัพท์ และประกันกลุ่ม เพิ่มขึ้น 39.64%
"ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของผลประกอบการดังกล่าวว่า เกิดจากเบี้ยประกันรายใหม่ และเบี้ยประกันรับสุทธิ ซึ่งเป็นรายได้หลักของธุรกิจประกันชีวิต รวมทั้งรายได้จากการลงทุนสุทธิ มีการขยายตัวอย่างโดดเด่น โดยเบี้ยประกันรับสุทธิ และรายได้จากการลงทุนสุทธิ เติบโตในระดับ 21.11% และ 24.36% ตามลำดับ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของช่องทางการขาย กลยุทธ์การตลาด รวมทั้งนโยบายการบริหารการลงทุนที่รอบคอบ และมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถรองรับความผันผวนของตลาดการเงินได้เป็นอย่างดี"นายบัณฑิตกล่าว
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้ธุรกิจประกันชีวิต มีการแข่งขันมากขึ้นหลายบริษัทมีการขยายช่องทางการจำหน่ายใหม่ ละมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และสนับสนุนการเพิ่มยอดขายอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามเชื่อว่า การแข่งขันดังกล่าวน่าจะส่งผลดีต่อผู้บริโภค โดยบริษัทเองยังได้เตรียมกลยุทธ์ที่จะรุกตลาดในทุกช่องทางการขายผ่านพันธมิตรรายใหม่ๆ และเจาะกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้นเช่นกัน และมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับการแข่งขัน รวมทั้งรักษาการเติบโต เพื่อเพิ่มยอดขาย และส่วนแบ่งตลาดได้ตามเป้าหมาย
นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินงานของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้(2554) โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 8,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,270 ล้านบาท หรือเติบโต 21.46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 6,628 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทำได้ทั้งสิ้น 596.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.36% และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 8.97 บาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 8.35 บาท โดยเป็นรายได้จากการลงทุนสิทธิ 757 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148.3 ล้านบาท เติบโต 24.36%
ทั้งนี้ ส่วนกำไรสะสม ก็ปรับเพิ่มจากสิ้นปี 2553 ซึ่งทำได้ 5,516 ล้านบาท เป็น 6,060 ล้านบาท ส่งผลให้สินทรัพย์รวมขยับจาก 66,229 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2553 เป็น 72,736 ล้านบาท ส่วนสินทรัพย์ลงทุน ปรับเพิ่มจาก 66,216 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2553 เป็น 70,748 ล้านบาท
สำหรับ ผลประกอบการในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-เมษายน) แบ่งเป็นเบี้ยปีแรก (AFYP) จากทุกช่องทางการขายทั้งสิ้น 3,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26.67% และสูงกว่าเป้าหมายถึง 17.16% โดยช่องทางตัวแทนขยายตัวสูงที่สุดถึง 56.29% และปัจจุบันบริษัท มีตัวแทนทั้งสิ้น 7,666 ราย ขณะที่แบงก์แอสชัวรันส์ ก็เติบโตแข็งแกร่ง 22.28% ส่วนช่องทางการตลาดพิเศษ ซึ่งประกอบด้วย เครดิตไลฟ์ การตลาดองค์กร การขายผ่านโทรศัพท์ และประกันกลุ่ม เพิ่มขึ้น 39.64%
"ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของผลประกอบการดังกล่าวว่า เกิดจากเบี้ยประกันรายใหม่ และเบี้ยประกันรับสุทธิ ซึ่งเป็นรายได้หลักของธุรกิจประกันชีวิต รวมทั้งรายได้จากการลงทุนสุทธิ มีการขยายตัวอย่างโดดเด่น โดยเบี้ยประกันรับสุทธิ และรายได้จากการลงทุนสุทธิ เติบโตในระดับ 21.11% และ 24.36% ตามลำดับ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของช่องทางการขาย กลยุทธ์การตลาด รวมทั้งนโยบายการบริหารการลงทุนที่รอบคอบ และมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถรองรับความผันผวนของตลาดการเงินได้เป็นอย่างดี"นายบัณฑิตกล่าว
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้ธุรกิจประกันชีวิต มีการแข่งขันมากขึ้นหลายบริษัทมีการขยายช่องทางการจำหน่ายใหม่ ละมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และสนับสนุนการเพิ่มยอดขายอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามเชื่อว่า การแข่งขันดังกล่าวน่าจะส่งผลดีต่อผู้บริโภค โดยบริษัทเองยังได้เตรียมกลยุทธ์ที่จะรุกตลาดในทุกช่องทางการขายผ่านพันธมิตรรายใหม่ๆ และเจาะกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้นเช่นกัน และมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับการแข่งขัน รวมทั้งรักษาการเติบโต เพื่อเพิ่มยอดขาย และส่วนแบ่งตลาดได้ตามเป้าหมาย
