xs
xsm
sm
md
lg

Q1นิวยอร์คไลฟ์ปั้นเบี้ยโต30% AACPรุกเพิ่มบริการเติมที่ดึงลูกค้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - SCB นิวยอร์คไลฟ์ โชว์Q 1 ปั้นเบี้ยปีแรก 2.9 พันล้านบาท โต 30% มั่นใจโตต่อเนื่องหลังเตรียมต่อยอดกลยุทธ์การจำหน่ายที่หลากหลาย ด้าน AACP เดินหน้าบริการลูกค้า หวังสร้างความพอใจแบบปากต่อปาก เชื่อเป็นความยั่งยืน หากลูกค้าช่วยสร้างแบรนด์จากการได้รับบริการที่ดี โชว์ลูกค้าไฮเอนด์โต 10% ทุกปี พร้อมจัดกิจกรรมเพิ่มเติมช่วงครบรอบ 60 ปี

นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต เปิดเผยถึงผลงานในไตรมาสแรกของปี 2554 ว่า ในภาพรวมบริษัทสามารถต่อยอดความสำเร็จปีที่แล้วได้อย่างโดดเด่น โดยบริษัทมีเบี้ยปีแรกจากทุกช่องทางการขายทั้งสิ้น 2,960 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 30%

ทั้งนี้ ผลงานที่โดดเด่นน่าจะมาจากการกลยุทธ์การตลาดที่แม่นยำ ประสิทธิภาพ และความแข็งแกร่งของช่องทางการขายของเรา โดยเฉพาะความสำเร็จจากความมุ่งมั่นในการขยายตลาดผ่านช่องทางที่ไม่ได้จัดจำหน่ายผ่านช่องทางธนาคาร หรือนอนแบงก์ อย่างจริงจัง ขณะที่ช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ ก็ขยายตัวได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน และสามารถกลับมารั้งตำแหน่ง ผู้นำตลาดอันดับ 1 ได้เช่นเดิม

สำหรับการเติบโตของบริษัทจากช่องทางการขายทั้งหมด 6 ช่องทางของบริษัท ช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ มีเบี้ยปีแรกทั้งสิ้น 2,396 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวของปีก่อน 26% ช่องทางตัวแทนขยายตัวโดดเด่นมาก เพิ่มขึ้น 44% ด้วยเบี้ยปีแรก 327 ล้านบาท ขณะที่ช่องทางการตลาดพิเศษ ซึ่งประกอบด้วย การตลาดองค์กร การขายผ่านโทรศัพท์ เครดิตไลฟ์ และประกันกลุ่ม มีเบี้ยปีแรกทั้งหมด 237 ล้านบาท เติบโตสูงที่สุดถึง 46% โดยประกันกลุ่ม มีการขยายตัวก้าวกระโดด เพิ่มขึ้นถึง 165%

“บริษัทเชื่อมั่นว่า จะสามารถขับเคลื่อนทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่สอง โดยได้เตรียมต่อยอดกลยุทธ์การจัดจำหน่ายผ่านหลากหลายช่องทาง (Multi distribution channels) ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น และมองเห็นโอกาสอีกมากในการเจาะตลาด และขยายฐานลูกค้าในช่องทางการขายใหม่ๆ ผ่านช่องทางนอนแบงก์ “นายบัณฑิตกล่าว

ด้าน นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัทอยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า การยึดหลักลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่บริษัทใช้ดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความพึงพอใจของลูกค้าต่อกิจกรรมที่บริษัทจัดทำร่วมกัน ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดกับการส่งผ่านความรู้ที่มีต่อบริษัทไปสู่สาธารณะ

ทั้งนี้ แนวทางการดูแลลูกค้า ของบริษัทที่ผ่านมาเป็นการสร้างความพอใจแก่ลูกค้า ซึ่งหากลูกค้านำไปบอกต่อกันจะทำให้เกิดความยั่งยืนทางธุรกิจ เนื่องจากได้รับการพูดถึงในแง่ดี โดยในส่วนของลูกค้ากลุ่ม เพรสทีจ ที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทถือว่าได้รับสิทธิพิเศษมากกว่ากลุ่มอื่น และมีจำนวนลูกค้าเติบโตในอัตรา 10% ทุกปี

“ลูกค้ากลุ่มนี้ของเราเบี้ยจะสูง และเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันที่เรามีลูกค้ากว่า 1.6 ล้านคน เป็นกลุ่มนี้ประมาณ 1.6 หมื่นราย และจะเป็นกลุ่มคนอายุ 45-55 ปี ซึ่งจะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการและเจ้าของกิจการที่ต้งอการลงทุนผ่านการประกันชีวิต และเชื่อว่ากลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี”นางพัชรากล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้บริษัทจะยังคงให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าอายุ 35-45 ปี เนื่องจากมองเป็นกลุ่มที่มีรายได้ และมีครอบครัวที่ต้องการวางแผนชีวิตในอนาคต ซึ่งมีความสนใจผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตมากว่ากลุ่มคนที่เพิ่มเริ่มทำงานหรือวัยรุ่น

นางพัชรา กล่าวอีกว่า สำหรับการชี้วัดความพึงพอใจ บริษัทบริษัทได้จัดทำเครื่องชี้วัด Net Promoter Score (NPS) มาวัดระดับความพึงพอใจของลูกค้า โดยพบว่าลูกค้าของบริษัทมีความพึงพอใจต่อแบรนด์เพิ่มสูงขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดมีลูกค้ายินดีชักชวนคนรู้มาใช้บริการกับบริษัทสูงถึง 34% เทียบกับปีที่แล้ว 27% และก่อนหน้านี้ 25%

โดยความพึงพอใจส่วนใหญ่ได้ส่งผ่านบริการและกิจกรรมที่บริษัทจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงทีผ่านมาผ่านแนวความคิด”สุขทั้งกาย...สบายทั้งใจ”ทั้งกิจกรรมเพื่อสุขภาพ เช่น การสัมนาสุขภาพ การทำอาหารเพื่อสุขภาพ และการสปาผ่านคลาย

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเพื่อความสบายใจ เช่น การเติมบุญสร้างสุข และการสนทนาธรรม ส่วนสุดท้ายเป็นกิจกรรมการส่งเสริมความรักความเข้าใจในครอบครัวผ่านการจัด แฟมิลี่เดย์ และการอบรมคุณแม่มือใหม่

ส่วนในปีนี้นับเป็นโอกาสครบรอบ 60 ปีของบริษัท บริษัทจึงได้เตรียมงบประมาณเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าภายใต้แนวความคิด”Pay It Forward” ส่งต่อความสุขต่อยอดความฝัน ให้แก่ลูกค้าของบริษัท โดยถือเป็นส่วนหนึ่งในการตอกย้ำจุดยืนในการสร้างสรรค์สังคมไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น