บลจ. บัวหลวง เตรียมปรับแผนปรับกลยุทธ "กองทุนรวมส่วนบุคคล" หลังส.ค. นี้ สคฝ. เริ่มคุ้มครองเงินฝากเพียง 50 ล้านบาท เผยล่าสุดลูกค้ารายย่อย และบริษัทเอกชนใหญ่ เร่งให้จัดพอร์ตเพียบ
นายหรรสา สุสายัณห์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังจัดทำแผนการลงทุนให้กับนักลงทุนในกองทุนรวมส่วนบุคคล หรือ ไพรเวตฟันด์อยู่ เพื่อให้นักลงทุนได้เริ่มทันใช้ในช่วงกลางปีนี้ เพราะต่อจากนี้ไปนักลงทุนรายย่อยจะเข้ามาใช้บริการในกองทุนดังกล่าวมากขึ้น เนื่องจากในเดือนสิงหาคมนี้ สถาบันคุ้มครองเงินฝาก หรือ สคฝ. จะเริ่มคุ้มครองเงินฝากให้แต่ละบุคคล 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่านักลงทุนรายย่อยเองเริ่มหาช่องใหม่ ๆ ในการลงทุนเพื่อกระจายการลงทุนมากขึ้น และขณะนี้นักลงทุนบางรายเริ่มที่จะมาใช้บริการในส่วนของกองทุนดังกล่าวแล้ว โดยให้ บลจ. บัวหลวง เองเป็นคนดูแลจัดพอร์ตการลงทุน เพราะนักลงทุนบางรายมีแต่เงินสดแต่ไม่รู้ว่าจะนำเงินไปลงทุนอะไรดีเพื่อจะให้ได้ผลตอบแทนที่ดี เราเลยต้องมีการวางแผนให้แก่นักลงทุน และสร้างความไว้วางใจเพื่อให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนกับเราแล้วสบายใจมากที่สุด
ขณะเดียวกัน ยังมีบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องการให้ บลจ. บัวหลวง เข้าไปช่วยจัดพอร์ตให้ด้วย เนื่องจากว่าบางบริษัทมีแต่สภาพคล่องของเงินสดเป็นจำนวนมาก และไม่รู้ว่าควรจะกระจายการลงทุนอย่างไรถึงจะให้ผลตอบแทนที่ดี และไม่รู้ว่าควรมีประมาณสัดส่วนเท่าไหร่ ตรงนี้จะเป็นอีกลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ต่อไปจะมีให้เราจัดพอร์ตให้ด้วย
นายหรรสา กล่าวต่อว่า ลูกค้าหลัก ๆ ส่วนใหญ่ขณะนี้ยังเป็นฐานลูกค้าของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าเงินฝากและอยากหาช่องทางการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ก็จะให้เรามาช่วยบริหารให้ซึ่ง บลจ.บัวหลวงเองก็ได้ประสานงานทำงานร่วมกับธนาคารกรุงเทพอย่างใกล้ชิดและได้ทำงานควบคู่กันมาอย่างต่อเนื่อง เพราะด้วยความไว้วางใจของลูกค้าทางธนาคารก็จะมาใช้บริการต่อจาก บลจ.บัวหลวง
“ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่ากองทุนส่วนบุคคลจะมีลูกค้าแต่เฉพาะนักลงทุนสถาบันรายใหญ่ ๆ รวมถึง กบข. ประกัน หรือลูกค้าไฮเน็กเวิร์ค ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก แต่ตอนนี้เริ่มมีเพิ่มเข้ามามากขึ้นหลังจากที่จะมีการคุ้มครองเงินในเดือนสิงหาคมนี้ เพียง 50 ล้านบาท และในปีหน้าจะเหลือเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้นักลงทุนรายย่อยทยอยเข้ามาให้เราจัดพอร์ตการลงทุนเพิ่มมากยิ่งขึ้น” นายหรรสา กล่าว
นายหรรสา สุสายัณห์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังจัดทำแผนการลงทุนให้กับนักลงทุนในกองทุนรวมส่วนบุคคล หรือ ไพรเวตฟันด์อยู่ เพื่อให้นักลงทุนได้เริ่มทันใช้ในช่วงกลางปีนี้ เพราะต่อจากนี้ไปนักลงทุนรายย่อยจะเข้ามาใช้บริการในกองทุนดังกล่าวมากขึ้น เนื่องจากในเดือนสิงหาคมนี้ สถาบันคุ้มครองเงินฝาก หรือ สคฝ. จะเริ่มคุ้มครองเงินฝากให้แต่ละบุคคล 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่านักลงทุนรายย่อยเองเริ่มหาช่องใหม่ ๆ ในการลงทุนเพื่อกระจายการลงทุนมากขึ้น และขณะนี้นักลงทุนบางรายเริ่มที่จะมาใช้บริการในส่วนของกองทุนดังกล่าวแล้ว โดยให้ บลจ. บัวหลวง เองเป็นคนดูแลจัดพอร์ตการลงทุน เพราะนักลงทุนบางรายมีแต่เงินสดแต่ไม่รู้ว่าจะนำเงินไปลงทุนอะไรดีเพื่อจะให้ได้ผลตอบแทนที่ดี เราเลยต้องมีการวางแผนให้แก่นักลงทุน และสร้างความไว้วางใจเพื่อให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนกับเราแล้วสบายใจมากที่สุด
ขณะเดียวกัน ยังมีบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องการให้ บลจ. บัวหลวง เข้าไปช่วยจัดพอร์ตให้ด้วย เนื่องจากว่าบางบริษัทมีแต่สภาพคล่องของเงินสดเป็นจำนวนมาก และไม่รู้ว่าควรจะกระจายการลงทุนอย่างไรถึงจะให้ผลตอบแทนที่ดี และไม่รู้ว่าควรมีประมาณสัดส่วนเท่าไหร่ ตรงนี้จะเป็นอีกลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ต่อไปจะมีให้เราจัดพอร์ตให้ด้วย
นายหรรสา กล่าวต่อว่า ลูกค้าหลัก ๆ ส่วนใหญ่ขณะนี้ยังเป็นฐานลูกค้าของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าเงินฝากและอยากหาช่องทางการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ก็จะให้เรามาช่วยบริหารให้ซึ่ง บลจ.บัวหลวงเองก็ได้ประสานงานทำงานร่วมกับธนาคารกรุงเทพอย่างใกล้ชิดและได้ทำงานควบคู่กันมาอย่างต่อเนื่อง เพราะด้วยความไว้วางใจของลูกค้าทางธนาคารก็จะมาใช้บริการต่อจาก บลจ.บัวหลวง
“ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่ากองทุนส่วนบุคคลจะมีลูกค้าแต่เฉพาะนักลงทุนสถาบันรายใหญ่ ๆ รวมถึง กบข. ประกัน หรือลูกค้าไฮเน็กเวิร์ค ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก แต่ตอนนี้เริ่มมีเพิ่มเข้ามามากขึ้นหลังจากที่จะมีการคุ้มครองเงินในเดือนสิงหาคมนี้ เพียง 50 ล้านบาท และในปีหน้าจะเหลือเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้นักลงทุนรายย่อยทยอยเข้ามาให้เราจัดพอร์ตการลงทุนเพิ่มมากยิ่งขึ้น” นายหรรสา กล่าว