บลจ.บัวหลวง เดินเกมตามดอกเบี้ย ขายบอนด์ระยะสั้น 6 เดือน ลงทุนในพันธบัตรในประเทศ ใชูผลตอบแทน 2% ต่อปี ไอพีโอถึง 31 มกราคมนี้
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (บลจ.บัวหลวง) กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจประจำไตรมาส 4 ปี 2553 ของประเทศต่างๆ ทยอยประกาศออกมาอย่างต่อเนื่อง และยังคงแสดงแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธนาคารกลางในประเทศกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ต่างเร่งดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวเพื่อบรรเทาปัญหาภาวะเงินเฟ้อ ดังเช่น ประเทศเกาหลีใต้มีการประกาศปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.75 ต่อปี หรือประเทศจีนเองนอกจากใช้นโยบายดอกเบี้ยแล้ว ก็ยังมีการประกาศให้มีการปรับเพิ่มเงินดาวน์ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 30 ซึ่งสำหรับประเทศไทยเองก็มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.25 ต่อปีเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ตัวเลขภาคการผลิตอื่นๆ ของประเทศไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ยังคงออกมาดี
โดยล่าสุด ดัชนีภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนธันวาคม 2553 ปรับเพิ่มเป็น 109.7 จากที่ก่อนหน้านี้อยู่ระดับที่ 99.7 ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของความต้องสินค้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นผลจากการปรับเพิ่มของราคาสินค้าเกษตรด้วย ในส่วนของการปรับเพิ่มดอกเบี้ยเงินฝากของสถาบันการเงินภายในประเทศ พบว่าธนาคารใหญ่ในประเทศมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ระหว่างร้อยละ 0.10 - 0.50 ต่อปี
นายวศินกล่าวต่อว่า ล่าสุด บริษัทได้เสนอขายกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 4/11 เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุน โดยกองทุนดังกล่าว เป็นกองทุนตราสารหนี้ที่มีแผนลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้น เช่น พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคาดว่าจะให้ผลตอบแทนประมาณ ร้อยละ 2.00 ต่อปี ทั้งนี้ กองทุนมีอายุการลงทุนประมาณ 6 เดือน ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท เปิดขายครั้งเดียวระหว่างวันที่ 25 - 31 มกราคมนี้