ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับวันหยุดยาวถึง 3 วัน(27 กพ.-1มีค.)หลังจากการตัดสินคดียึดทรัพย์ฯที่มีมูลค่ามากที่สุดเมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา พร้อมทั้งวันมาฆบูชาซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา แม้จะมีเหตุการณ์วางระเบิดขึ้น แต่ก็ต้องขอชมเชยรัฐบาลที่ยังคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ดี.....
นอกจากวันหยุดยาว จะช่วยทำให้ความร้อนแรงของสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นลดลงไปบ้าง ในขณะเดียวกันตลาดเองก็มีการซึมซับข่าวและข้อมูลเกี่ยวกับผลสรุปการพิจารณาคดีในครั้งนี้ไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นภาวะตลาดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา(2 มี.ค.) บรรยากาศการลงทุนรวมไปถึงการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นจึงไม่น่าวิตกกังวลมากนัก
เปิดตลาดมาวันแรกของสัปดาห์( 2มี.ค.)ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 11.82 จุดโดยปิดที่ 733.19 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 27,953.89 ล้านบาท ซึ่งถือว่าการที่ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 กว่าจุดในครั้งนี้ด้วย
และถึงแม้ว่านักลงทุนมีการขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับคดีออกมา แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลดลงไป ในทางกลับกันได้มีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่เพิ่มเข้ามาแทน จึงทำให้ดัชนีตลอดทั้งสัปดาห์ปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 735.04 จุด เพิ่มขึ้น 1.85 จุดและมีมูลค่าการซื้อขาย 23,626.51 ล้านบาทในช่วงกลางสัปดาห์(3 มี.ค.)ก่อนที่ดัชนีจะปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง จากการเทขายเพื่อทำกำไรของนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าในช่วงวันที่ 4 ของสัปดาห์(4 มี.ค.)ได้มีการเทขายหุ้นออกมาบ้างเพื่อทำกำไรแต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อดัชนีมากนัก ก่อนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าของวันสุดท้ายของสัปดาห์ และปรับตัวลดลงอีกครั้งในช่วงบ่าย เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้
และถึงแม้ว่าวันสุดท้ายของสัปดาห์(5 มี.ค.)นักลงทุนจะมีการขายหุ้นออกมาก็ไม่ได้ส่งผลต่อดัชนีมากนักเช่นกัน ทั้งนี้ ดัชนีได้ปิดที่ระดับ 723.96 จุด ลดลง 6.86 จุดและมีมูลค่าการซื้อขาย 21,886.64 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างเทขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไรจากการปรับตัวของหุ้น ขณะเดียวกันปัจจัยการเมืองในสัปดาห์นี้ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนพร้อมทั้งมีการขายหุ้นออกมาเพื่อลดความเสี่ยง และรอดูความชัดเจนของสถานการณ์ต่างๆด้วย
ผู้จัดการกองทุน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับตลาดหุ้นและการลงทุนในรอบสัปดาห์นี้(8 - 12 มี.ค.) ดังนี้
พนุกร จันทรประภาพ ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า สำหรับดัชนีตลาดหุ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัจจัยทางด้านการเมืองที่เกิดขึ้น จึงส่งผลให้เริ่มกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง รวมไปถึงราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์หลายตัวปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหุ้นที่เป็นกลุ่มนำตลาด อีกทั้งยังมีหุ้นที่ขึ้นXD มากด้วย จึงคาดว่าแนวโน้มตลาดหุ้นระยะสั้นจะไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก
"สำหรับสัปดาห์นี้นักลงทุนควรลงทุนด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากมีปัจจัยทางด้านการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพราะเกิดความวิตกกังวลต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่าจะมีแนวโน้มเป็นเช่นไร โดยมองว่าในช่วง 1 เดือนนี้ ดัชนีจะแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways)โดยปรับตัวอยู่ระหว่าง 700-750 จุด"พนุกร กล่าว
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ต่างประเทศค่อนข้างที่จะมีพัฒนาการไปในทางที่ดี นักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดกับประเทศ ยุโรป กรีซ โดยรัฐบาลของประเทศต่างๆเหล่านี้ได้มีการออกมาตรการต่างๆเพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ จึงส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกปรับตัวดีขึ้นด้วย
นอกจากวันหยุดยาว จะช่วยทำให้ความร้อนแรงของสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นลดลงไปบ้าง ในขณะเดียวกันตลาดเองก็มีการซึมซับข่าวและข้อมูลเกี่ยวกับผลสรุปการพิจารณาคดีในครั้งนี้ไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นภาวะตลาดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา(2 มี.ค.) บรรยากาศการลงทุนรวมไปถึงการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นจึงไม่น่าวิตกกังวลมากนัก
เปิดตลาดมาวันแรกของสัปดาห์( 2มี.ค.)ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 11.82 จุดโดยปิดที่ 733.19 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 27,953.89 ล้านบาท ซึ่งถือว่าการที่ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 กว่าจุดในครั้งนี้ด้วย
และถึงแม้ว่านักลงทุนมีการขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับคดีออกมา แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลดลงไป ในทางกลับกันได้มีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่เพิ่มเข้ามาแทน จึงทำให้ดัชนีตลอดทั้งสัปดาห์ปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 735.04 จุด เพิ่มขึ้น 1.85 จุดและมีมูลค่าการซื้อขาย 23,626.51 ล้านบาทในช่วงกลางสัปดาห์(3 มี.ค.)ก่อนที่ดัชนีจะปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง จากการเทขายเพื่อทำกำไรของนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าในช่วงวันที่ 4 ของสัปดาห์(4 มี.ค.)ได้มีการเทขายหุ้นออกมาบ้างเพื่อทำกำไรแต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อดัชนีมากนัก ก่อนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าของวันสุดท้ายของสัปดาห์ และปรับตัวลดลงอีกครั้งในช่วงบ่าย เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้
และถึงแม้ว่าวันสุดท้ายของสัปดาห์(5 มี.ค.)นักลงทุนจะมีการขายหุ้นออกมาก็ไม่ได้ส่งผลต่อดัชนีมากนักเช่นกัน ทั้งนี้ ดัชนีได้ปิดที่ระดับ 723.96 จุด ลดลง 6.86 จุดและมีมูลค่าการซื้อขาย 21,886.64 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างเทขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไรจากการปรับตัวของหุ้น ขณะเดียวกันปัจจัยการเมืองในสัปดาห์นี้ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนพร้อมทั้งมีการขายหุ้นออกมาเพื่อลดความเสี่ยง และรอดูความชัดเจนของสถานการณ์ต่างๆด้วย
ผู้จัดการกองทุน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับตลาดหุ้นและการลงทุนในรอบสัปดาห์นี้(8 - 12 มี.ค.) ดังนี้
พนุกร จันทรประภาพ ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า สำหรับดัชนีตลาดหุ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัจจัยทางด้านการเมืองที่เกิดขึ้น จึงส่งผลให้เริ่มกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง รวมไปถึงราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์หลายตัวปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหุ้นที่เป็นกลุ่มนำตลาด อีกทั้งยังมีหุ้นที่ขึ้นXD มากด้วย จึงคาดว่าแนวโน้มตลาดหุ้นระยะสั้นจะไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก
"สำหรับสัปดาห์นี้นักลงทุนควรลงทุนด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากมีปัจจัยทางด้านการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพราะเกิดความวิตกกังวลต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่าจะมีแนวโน้มเป็นเช่นไร โดยมองว่าในช่วง 1 เดือนนี้ ดัชนีจะแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways)โดยปรับตัวอยู่ระหว่าง 700-750 จุด"พนุกร กล่าว
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ต่างประเทศค่อนข้างที่จะมีพัฒนาการไปในทางที่ดี นักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดกับประเทศ ยุโรป กรีซ โดยรัฐบาลของประเทศต่างๆเหล่านี้ได้มีการออกมาตรการต่างๆเพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ จึงส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกปรับตัวดีขึ้นด้วย
