ASTVผู้จัดการรายวัน-บลจ.ทิสโก้เชื่อ แผ่นดินไหวกระทบหุ้นชิลีระยะสั้น มั่นใจประเทศฟื้นเร็วจากการมีสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และความมั่งคั่งสูง พร้อมปัดกระทบการลงทุนกองละตินอเมริกา เหตุมีสัดส่วนการลงทุนน้อยเพียง 2-3%
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการลงทุนธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหวในประเทศชิลีเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นภายในประเทศชิลีปรับตัวลงมาในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังส่งผลให้ค่าเงินของประเทศชิลีอ่อนตัวลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ภัยธรรมชาติดังกล่าวน่าจะสงผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นชิลีในระยะสั้นเท่านั้น
ทั้งนี้ สาเหตุส่วนหนึ่งที่น่าจะทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศชิลีปรับตัวดีขึ้นได้ เนื่องจากเป็นประเทศที่ร่ำรวย และพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งฐานะทางการคลังและอันดับเครดิตอยู่ในระดับสูง โดยมีมูลค่าหนี้ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) เพียงแค่า 5% เท่านั้น
"เรื่องแผ่นดินไหวคงมีผลกระทบแค่ระยะสั้น แต่ด้วยความเป็นประเทศที่รวยอยู่แล้วการบูรณะใหม่คงจะไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งแตกต่างจากเฮติที่จะได้รับผลกระทบมากกว่า ซึ่งตอนนี้อันดับเครดิตของชิลีก็ยังอยู่ในระดับAA และหากจะลงทุนในหุ้นชิลีตอนนี้ก็น่าจะเป็นจังหวะที่ดี เนื่องจากหุ้นมีการปรับตัวลดลงมาในระดับหนึ่งแล้ว"นายสาห์รัชกล่าว
นายสาห์รัช กล่าวต่อว่า ส่วนการลงทุนในกองทุนละตินอเมริกา ที่บลจ.ทิสโก้กำลังจะทำการเปิดจำหน่ายนั้น ไม่น่าจะมีผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศชิลี เนื่องจากดัชนี ETF ละตินอเมริกาที่กองทุนจะเข้าลงทุนมีสัดส่วนการลงทุนในประเทศชิลี เพียงแค่ 2-3% และเหตุการณ์ดังกล่าวก็มีผลกระทบเพียงส่วนของประเทศชิลีเท่านั้นโดยภัยธรรมชาติ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงในทุกตลาดอยู่แล้ว แต่ต้องดูศักยภาพของแต่ละประเทศด้วยว่าจะมีความสามารถในการฟื้นฟูประเทศได้มากน้อยขนาดไหน
"มันต้องดูว่าเขาร่ำรวยไหม หากเปรียบบราซิลกับไทยก็คงคล้ายกัน โดยเมื่อมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นก็น่าจะฟื้นฟูประเทศได้ดีกว่า ประเทศที่ยากจน และไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากนัก"นายสาห์รัชกล่าว
สำหรับ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ละติน อเมริกา (TISCO Latin America Fund : TISCOLAF )” จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Lyxor ETF MSCI EM Latin America (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) ประเภทกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ มีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI EM Latin America บริหารและจัดการโดย Lyxor International Asset Management
ทั้งนี้ ในปัจจุบันกองทุนมีสัดส่วนการลงทุนอยู่ในประเทศบราซิลประมาณ 70% แม็กซิโก 20% ซึ่งจะมีน้ำหนักการลงทุนตามขนาดมาร์เก็ตแคปของแต่ละประเทศ ที่มีสัดส่วนเดียวกับดัชนี MSCI ละตินอเมริกา ซึ่งน่าจะได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และสหรัฐอเมริกา
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการลงทุนธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหวในประเทศชิลีเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นภายในประเทศชิลีปรับตัวลงมาในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังส่งผลให้ค่าเงินของประเทศชิลีอ่อนตัวลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ภัยธรรมชาติดังกล่าวน่าจะสงผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นชิลีในระยะสั้นเท่านั้น
ทั้งนี้ สาเหตุส่วนหนึ่งที่น่าจะทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศชิลีปรับตัวดีขึ้นได้ เนื่องจากเป็นประเทศที่ร่ำรวย และพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งฐานะทางการคลังและอันดับเครดิตอยู่ในระดับสูง โดยมีมูลค่าหนี้ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) เพียงแค่า 5% เท่านั้น
"เรื่องแผ่นดินไหวคงมีผลกระทบแค่ระยะสั้น แต่ด้วยความเป็นประเทศที่รวยอยู่แล้วการบูรณะใหม่คงจะไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งแตกต่างจากเฮติที่จะได้รับผลกระทบมากกว่า ซึ่งตอนนี้อันดับเครดิตของชิลีก็ยังอยู่ในระดับAA และหากจะลงทุนในหุ้นชิลีตอนนี้ก็น่าจะเป็นจังหวะที่ดี เนื่องจากหุ้นมีการปรับตัวลดลงมาในระดับหนึ่งแล้ว"นายสาห์รัชกล่าว
นายสาห์รัช กล่าวต่อว่า ส่วนการลงทุนในกองทุนละตินอเมริกา ที่บลจ.ทิสโก้กำลังจะทำการเปิดจำหน่ายนั้น ไม่น่าจะมีผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศชิลี เนื่องจากดัชนี ETF ละตินอเมริกาที่กองทุนจะเข้าลงทุนมีสัดส่วนการลงทุนในประเทศชิลี เพียงแค่ 2-3% และเหตุการณ์ดังกล่าวก็มีผลกระทบเพียงส่วนของประเทศชิลีเท่านั้นโดยภัยธรรมชาติ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงในทุกตลาดอยู่แล้ว แต่ต้องดูศักยภาพของแต่ละประเทศด้วยว่าจะมีความสามารถในการฟื้นฟูประเทศได้มากน้อยขนาดไหน
"มันต้องดูว่าเขาร่ำรวยไหม หากเปรียบบราซิลกับไทยก็คงคล้ายกัน โดยเมื่อมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นก็น่าจะฟื้นฟูประเทศได้ดีกว่า ประเทศที่ยากจน และไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากนัก"นายสาห์รัชกล่าว
สำหรับ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ละติน อเมริกา (TISCO Latin America Fund : TISCOLAF )” จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Lyxor ETF MSCI EM Latin America (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) ประเภทกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ มีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI EM Latin America บริหารและจัดการโดย Lyxor International Asset Management
ทั้งนี้ ในปัจจุบันกองทุนมีสัดส่วนการลงทุนอยู่ในประเทศบราซิลประมาณ 70% แม็กซิโก 20% ซึ่งจะมีน้ำหนักการลงทุนตามขนาดมาร์เก็ตแคปของแต่ละประเทศ ที่มีสัดส่วนเดียวกับดัชนี MSCI ละตินอเมริกา ซึ่งน่าจะได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และสหรัฐอเมริกา
