xs
xsm
sm
md
lg

การวางแผนทางการเงินเพื่อสุขภาพที่ดีและความมั่นคงของครอบครัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ ชีพจรการลงทุน
โดย ปรวรรณ สุขช่วย
ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอเชียไรซิ่ง จำกัด
www.asiarising.com


ทุกท่านเคยสังเกตหรือไม่ว่าสมัยนี้คนเราป่วยเป็นโรคต่างๆ กันง่ายดายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นโรคยอดนิยม เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือจะเป็นโรคที่พัฒนาขึ้นใหม่ เช่น โรคไข้หวัด 2009 สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่า ในความเป็นจริงแล้วมนุษย์นั้นอ่อนแอลงหรือโรคภัยไข้เจ็บมีพัฒนาการมากขึ้นกันแน่ และเราควรดูแลและป้องกันอย่างไรเพื่อให้มีผลกระทบกับความมั่นคงของครอบครัวให้น้อยที่สุด

จากสถิติขององค์การอนามัยโลกพบว่าในอนาคตมนุษย์มีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนมากขึ้นซึ่งส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น และเมื่อมนุษย์มีอายุมากขึ้นก็ย่อมส่งผลให้อัตราการเจ็บป่วยมากขึ้นได้เช่นเดียวกัน อีกทั้ง สภาพแวดล้อมและมลพิษที่เกิดขึ้นในโลกก็ยิ่งเอื้ออำนวยให้คนเจ็บป่วยได้ง่ายรวมถึงเกิดโรคภัยไข้เจ็บที่พัฒนาการต่อมาตามสภาพแวดล้อมก็มากขึ้นด้วย ในขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลก็มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตลอดเวลา
โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายด้านวิทยาการทางการแพทย์และค่าใช้จ่ายในการผลิตยารักษาโรคที่สูงขึ้น (Medical Inflation) ซึ่งโดยเฉลี่ยจะมีอัตราเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10-15 ต่อปี อีกทั้งยังมีการค่าใช้จ่ายการให้บริการทางการแพทย์ที่มุ่งหวังให้คนไข้มีความสะดวกสบายมากขึ้นดังจะเห็นได้ในโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ที่คนไข้จะได้รับบริการใกล้เคียงกับโรงแรมชั้นหนึ่งเลยทีเดียว ไม่เพียงแต่ภาคเอกชนเท่านั้น แม้กระทั่งค่าใช้จ่ายในการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐบาลก็มีแนวโน้มสูงขึ้นเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ที่นักวิชาการออกมาเตือนรัฐบาลไทยให้ดำเนินนโยบายและวางแผนอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของระบบสวัสดิการข้าราชการในอีก 4-5 ปีข้างหน้า หลังจากพบว่าในปี 2552 ที่ผ่านมาค่าใช้จ่ายส่วนนี้เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดรวมกว่า 6 หมื่นล้านบาทและมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รัฐบาลตั้งวงเงินงบประมาณไว้เพียง 4.8 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

เรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้นและผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้น ได้รับความสนใจจากหลายฝ่าย ดังจะเห็นได้จากงานวิจัยที่หลากหลาย เช่น ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่มีผลทำให้บางครอบครัวถึงขั้นล้มละลายได้ หรือรายงานการศึกษาจากองค์การอนามัยโรคที่พบว่าผู้ป่วยมากกว่า 150 ล้านคนในแต่ละปีทั่วโลกประสบปัญหาทางการเงินอันเนื่องมาจากภาระด้านการรักษาพยาบาล เนื่องจากว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีโรคร้ายแรงในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป นั้นสูงมาก แม้กระทั่งในประเทศไทยเองก็ตาม บางครั้งแค่เป็นหวัดธรรมดาไปพบแพทย์ค่าใช้จ่ายต่อครั้งก็เกือบ 1,000 บาทแล้ว ไม่นับรวมถึงกรณีป่วยหนัก เช่น โรคยอดฮิตอย่างมะเร็ง ที่ในบางกรณีก็ยากที่จะสามารถประเมินได้ว่าต้องมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นเท่าไร ทำให้บางคนถึงกับต้องใช้เงินที่สะสมมาตลอดชีวิตในการรักษาตัวเองหรือคนในครอบครัวที่เจ็บป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมไทยซึ่งอยู่กันอย่างระบบครอบครัวเกื้อหนุนกันนั้น หากคนใดคนหนึ่งในครอบครัวเจ็บป่วย คนที่เหลืออยู่ก็ย่อมที่จะต้องหาทางช่วยเหลือและรักษาอย่างสุดความสามารถของครอบครัวนั้นๆ แม้กระทั่งถึงขั้นต้องกู้หนี้ยืมสินมาก็มีให้พบเห็นในหน้าหนังสือพิมพ์เป็นประจำ ทั้งนี้ ถ้าจะพูดกันตามตรงแล้วค่าใช้จ่ายที่ยากจะประมาณส่วนนี้เป็นภาระกับคนที่เหลืออยู่ ซึ่งต่างจากกรณีที่ตายซึ่งอาจจะทำให้ครอบครัวแค่ขาดผู้หารายได้ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคนที่เหลืออยู่

ดังนั้น ในการวางแผนทางการเงินเพื่อความมั่นคงของครอบครัวที่มีประสิทธิภาพนั้น ควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายอันไม่คาดคิดและใกล้ตัวเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเหล่านี้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทยส่วนใหญ่ซึ่งไม่ได้อยู่ในระบบราชการหรือมีสวัสดิการด้านประกันสุขภาพจากบริษัท ซึ่งควรมีการวางแผนจัดสรรการออมเงินเพื่อการค่าใช้จ่ายในส่วนของการดูแลสุขภาพด้วย อีกวิธีหนึ่งในการรักษาความมั่งคงทางการเงินของครอบครัวได้ในเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เป็นที่นิยมและมีประสิทธิภาพมากกว่า คือ การป้องกันความเสี่ยงโดยการทำประกันสุขภาพซึ่งสามารถทำการวางแผนการเงินและประมาณการค่าใช้จ่ายต่อปีได้ค่อนข้างแน่นอน โดยประกันสุขภาพนั้นเป็นประกันที่มีความแตกต่างจากการทำประกันชีวิตทั่วไปอย่างชัดเจนโดยเน้นการให้ความคุ้มครองในกรณีเจ็บป่วยเป็นหลัก ซึ่งสามารถจะลดความเสี่ยงการเป็นภาระแก่คนที่อยู่รอบข้างและครอบครัวในเรื่องค่าใช้จ่ายของการรักษาพยาบาลได้ นอกจากนี้ การทำประกันสุขภาพจะมีลักษณะการทำประกันเป็นแบบปีต่อปี ซึ่งทำให้สามารถลดความเสี่ยงเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและความมั่นคงของบริษัทประกันได้ส่วนหนึ่งซึ่งแตกต่างจากการทำประกันชีวิตที่กรมธรรม์จะมีข้อผูกพันเป็นเวลานาน

ในปัจจุบันจะพบว่าบริษัทประกันหลายแห่งได้ให้ความสำคัญกับการทำประกันสุขภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ดังจะเห็นตามโฆษณาต่างๆ เพราะคนส่วนใหญ่เริ่มตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน ดังนั้น การเลือกประกันสุขภาพที่ดีก็เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญด้วย ประกันสุขภาพที่ดีควรเป็นประกันสุขภาพที่มีวงเงินในการรักษาสูงเพียงพอ และให้ความคุ้มครองในกรณีการเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก และไม่ปฏิเสธหรือยกเลิกการทำประกันเมื่อพบว่าผู้เอาประกันป่วยเป็นโรคร้ายแรง นอกจากนี้ ประกันสุขภาพที่ดีควรให้โอกาสครอบคลุมถึงกลุ่มผู้เอาประกันที่มีอายุมากด้วย เพราะเป็นช่วงที่ประกันสุขภาพมีความสำคัญมากที่สุด อีกทั้ง ไม่ควรมีเงื่อนไขในการรักษาพยาบาลที่ซับซ้อน เข้าใจยาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสับสนและทำไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ในบางกรณี

สุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่าเราจะมีการวางแผนการเงินเพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแล้ว แต่ความไม่มีโรค ย่อมเป็นลาภอันประเสริฐที่สุด ดังนั้น อย่าลืมดูแลตัวเองและคนในครอบครัวด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะคะ!
กำลังโหลดความคิดเห็น